"จากหัวใจ กรุงศรีวิไล"

12 ต.ค. 58

เขียนจากใจ ถึง นิตยสารคิวทอง

     เกือบ 40 ปีที่ได้รู้จักกับ สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย ชื่อ “ศักดา รัตนสุบรรณ” เราสองคนรู้จักรักใคร่กันดี แต่มีคนไม่มากนักที่รู้ว่าเรารักกัน สนิทกันแบบพี่น้อง ตั้งแต่ผมเริ่มแสดงภาพยนตร์ใหม่ๆ ปี 2513 คือเรื่องแรก “ลูกยอด” คู่กับ พี่อี๊ด (เพชรา เชาวราษฎร์) ผมแสดงภาพยนตร์มา 45 ปี จนปัจจุบันนี้ประมาณ 427 เรื่อง ไม่รวมละครยุคปัจจุบัน ต่างคนต่างมีอาชีพกันไป

     ผมจำได้ว่าประมาณ 30 ปี ที่มีนิตยสาร เล่มหนึ่งชื่อ “คิวทอง” มันเป็นความท้าทายอย่างยิ่ง ที่ออกนิตยสารฉบับนี้ ซึ่งตอนผมเป็นวัยรุ่น มีรุ่นพี่ๆ ชอบคุยกันแต่ “บิลเลียด” ผมก็ไม่เคยสนใจเลย ณ ที่หนึ่งเรียกว่าเป็นที่ชุมนุมของเหล่านักแสดงที่ว่างจากงานแสดงที่มาที่นี่ “สโมสร วังสราญรมย์” ใกล้กับท้องสนามหลวง

     50 กว่าปีที่มีสโมสรแห่งนี้  สมัย “มิตร ชัยบัญชา” พระเอกรุ่นพี่ผม กำลังโด่งดังอย่างมาก ผมเริ่มเป็นวัยรุ่น เห็นพระเอกหลายท่าน ผมก็อยากเป็นดารา เหมือนเด็กวัยรุ่นทั่วไป แต่อนิจจาเป็นไปไม่ได้แน่ และทั้งมิตร-สมบัติ-ไชยา พระเอก 3 ท่านนี้ กำลังแย่งกันเป็นเบอร์ 1 ของเมืองไทย

    แต่ชะตาฟ้าลิขิตปี 2513 มิตร ชัยบัญชา โหนเฮลิคอปเตอร์ถ่ายภาพยนตร์เรื่อง “อินทรีทอง” เสียชีวิต วงการภาพยนตร์ไทยจึงได้พระเอกเกิดขึ้นใหม่ 7 คนรวมผมด้วย ทุกคนเกิดจากค่าย /// ภาพยนตร์ระบบ 35 ม.ม. แต่ผมเกิดจากภาพยนตร์ 16 ม.ม. (ที่ใช้คนพากย์) ซึ่งเป็นเรื่องสุดท้ายของวงการภาพยนตร์ไทย และเป็นเรื่องสุดท้ายของนางเอกยอดนิยม “เพชรา เชาวราษฎร์”

    ผมอยู่วัดมาตั้งแต่ 5 ขวบจึงรู้ความประพฤติที่ดี รู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน กตัญญู ไม่ลืมตัว ทุกวันนี้เจอ “พี่ศักดา” ผมยกมือไหว้ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ ทั้งๆ ที่ท่านบอกว่าไม่ต้องไหว้หรอกเราเป็นเพื่อนกัน

     เขียนเรื่องตัวเองมาตั้งนาน ยังไม่เขียนถึง “คิวทอง” เลย ผมยอมรับว่าคิวทองนั้นมีประโยชน์มาก สนุกเกอร์เป็นกีฬาโปรดของผม เวลาว่าง เราจะมาสังสรรค์กันกับเพื่อนๆ รุ่นพี่-รุ่นน้อง-หลาน มีสมาธิ-ละเอียด-เด็ดขาด ความมั่นใจ-ความจำ-เล่ห์เหลี่ยม-สปิริตสูง

    ผมเป็นวัยรุ่น เล่นโบว์ลิ่ง ให้กับทีม “ไทยรัฐ” เกือบได้ติดทีมชาติ แต่ผมไปแสดงภาพยนตร์เสียก่อน เรื่องของผม ถ้าเขียนไปมากกว่านี้รับรองไม่ทำให้น่าเบื่อหรอก 3 เดือนไม่รู้ว่าเขียนหมดหรือเปล่า

     แฟน “คิวทอง” ที่รัก เชื่อมั่นในความตั้งใจดี เสนอเรื่องราวต่างๆ ความเคลื่อนไหวในวงการ สนุกเกอร์บ้านเรา และต่างประเทศทั่วโลก จากลูกผู้ชายคนนี้เถอะครับ ผมดูสนุกเกอร์ทุกครั้งที่มีการแข่งขัน ถ่ายทอดสดจากทีวีช่องต่างๆ ผู้บรรยายก็มีประสิทธิภาพ ดูแล้วสบายๆ ผมรู้จักนักสนุกเกอร์ทุกคนทั้งไทย-เทศ ก็จากคิวทองนี่แหละครับ อ้อ... ผมลืมบอกไปว่าผมชอบการแต่งตัวของนักกีฬามาก หล่อ-เท่ห์มากๆ  แต่...ความหล่อ-สมาร์ทนั้น เพียงภายนอกที่เราพบเห็น แต่ภายในจิตใจนั้นต้องประเสริฐด้วย “อย่าล้มการแข่งขันนะครับ” สงสารคนที่เชียร์ท่าน “ว่ากี่เช็ง-กี่เช็ง”  มันบาปมากๆ

     ท้ายนี้ไม่มีสิ่งใดที่จะอวยพรกับ “คิวทอง” 30 ปี ขอให้อยู่กับพวกเราไปนานๆ นักสนุกเกอร์ไทย โชคดีทุกๆคนครับ ขอบคุณทีมงานทุกๆ คนที่ให้ความกรุณาผมเขียนคอลัมน์นี้ เพราะทุกๆ คนดีกับผม ไม่เหมือนพวกที่อยู่ในสภา (ส.ส.) ที่ผมอยู่ด้วย คือพวก “จิงโจ้ ไม่จริงใจ”

“ปีทอง “คิวทอง” Have a great Time.”

“รักคิวทอง เสมอ แก้วตา รักศักดา รัตนสุบรรณ ตลอดกาล”

 

กรุง ศรีวิไล

15  ก.ค. 58

(อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร)

 ** ตีพิมพ์ในนิตยสารคิวทองฉบับพิเศษ ฉลองครบรอบ 30 ปี ฉบับที่ 393 เดือน สิงหาคม 2558