กกท. แจ้งข้อปฏิบัติให้กับสมาคมกีฬาทั่วประเทศ ภายหลัง พ.ร.บ. กกท. 2558 มีผลบังคับใช้

1 เม.ย. 58

 

นายมนตรี ไชยพันธุ์ รองผู้ว่าการ รักษาการแทน ผู้ว่าการ กกท. เปิดเผยว่า ตามที่ พระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2558 ประกาศในราชกิจจานุเบกษาและมีผลบังคับใช้เป็นกฎหมายแล้ว โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม 2558 เป็นต้นไป โดย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ ทรงลงพระปรมาภิไธย เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2558 และประกาศในราชกิจจานุเบกษาวันที่ 26 มีนาคม 2558 นั้น

ขณะนี้ กกท. ได้มีหนังสือถึงสมาคมกีฬา "แห่งประเทศไทย" ทั้ง 76 สมาคม และสมาคมกีฬาแห่งจังหวัด ทั้ง 77 สมาคม เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องได้แก่

1. สมาคม สมาคมกีฬา "แห่งประเทศไทย" ทั้ง 76 สมาคม และสมาคมกีฬาแห่งจังหวัด ทั้ง 77 สมาคม จะต้องดำเนินการแก้ไขปรับปรุงข้อบังคับและการดำเนินการต่างๆ ของสมาคมให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2558 ภายใน 180 วัน นับแต่วันที่พระราชบัญญัติ นี้ใช้บังคับก่อน และนำข้อบังคับที่ได้แก้ไขปรับปรุงใหม่ไปจดทะเบียนต่อนายนายทะเบียนสมาคมกีฬา เมื่อนายทะเบียนได้จดทะเบียนแล้วให้มีผลใช้บังคับได้

2. สมาคมกีฬา "แห่งประเทศไทย" ทั้ง 76 สมาคม และสมาคมกีฬาแห่งจังหวัด ทั้ง 77 สมาคมที่ถึงกำหนดเลือกตั้งนายกสมาคม หรือคณะกรรมการบริหารสมาคม ขอให้สมาคมกีฬาดำเนินการแก้ไขปรับปรุงข้อบังคับและการดำเนินการต่างๆ ของสมาคมให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติฯ ดังกล่าว ภายใน 180 วัน นับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับก่อน และนำข้อบังคับที่ได้แก้ไขปรับปรุงใหม่ไปจดทะเบียนต่อนายทะเบียนสมาคมกีฬา เมื่อนายทะเบียนได้จดทะเบียนแล้วให้มีผลใช้บังคับได้ ให้สมาคมกีฬาดำเนินการจัดประชุมใหญ่เพื่อเลือกตั้งนายกสมาคมหรือคณะกรรมการบริหารสมาคม ตามลำดับต่อไป

ทั้งนี้ กกท. ได้กำหนดขอบเขตการดำเนินงานเกี่ยวกับพระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2558 ไว้ดังนี้ เดือนเมษายน – พฤษภาคม ประชุมคณะอนุกรรมการ 6 คณะที่เกี่ยวข้องเพื่อออกข้อบังคับและกฎหมายลูก ตลอดจนดำเนินการขอความเห็นชอบและให้การรับรองข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศ และหลักเกณฑ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับพระราชบัญญัติฯ จากคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย, เดือนมิถุนายน – กรกฎาคม ประสานสมาคมกีฬาดำเนินการแก้ไขข้อบังคับต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง, เดือนสิงหาคม ประสานสมาคมกีฬาจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปีและดำเนินการในส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป

พระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2558 เป็นการรวมข้อปฏิบัติของ พ.ร.บ. 2 ฉบับ ประกอบด้วย ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และพระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2528 เข้าด้วยกัน เพื่อใช้ในการส่งเสริม สนับสนุน พัฒนา คุ้มครอง ช่วยเหลือ และจัดสวัสดิการที่เกี่ยวข้องกับบุคลากรการกีฬา อาทิ นักกีฬา ผู้ฝึกสอน ผู้ตัดสิน สมาคมกีฬา ฯลฯ ตลอดจนกำกับดูแลการดำเนินงานของสมาคมกีฬาและการดำเนินกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการกีฬาให้มีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ยังรวมถึงการจัดตั้งกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ (รวมกองทุนการศึกษาของนักกีฬาฯ และกองทุนสวัสดิการนักกีฬาฯ) ขึ้นใน พ.ร.บ. กกท. ฉบับใหม่ โดยจะขอรับเงินจากภาษีสุราและยาสูบในอัตรา ร้อยละ 2 คาดว่าจะได้ประมาณปีละ 4,000 ล้านบาท เพื่อใช้พัฒนาวงการกีฬาของชาติต่อไป

 

กองประชาสัมพันธ์ กกท.
1 เมษายน 2558