"กอบกาญจน์" นำทีมคณะกรรมการ กกท. เยี่ยมชมศูนย์ฝึกกีฬาพัทยา-ศูนย์ฝึกกีฬาเรือพาย

1 ก.พ. 59

นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย (บอร์ด กกท.) เดินทางเข้าเยี่ยมชมศูนย์ฝึกกีฬาเมืองพัทยา และศูนย์ฝึกกีฬาเรือพาย อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2559 ที่ผ่านมา

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า การเดินทางมาเยี่ยมชมศูนย์ฝึกกีฬาทั้ง 2 แห่งในวันนี้ นับว่าเป็นโอกาสดีที่ได้ร่วมเดินทางมากับคณะบอร์ด กกท. โดยได้เดินทางไปเยี่ยมชมศูนย์ฝึกกีฬาเมืองพัทยา ซึ่งประเทศไทยเราเคยใช้เป็นสนามจัดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนอินดอร์เกมส์ ครั้งที่ 1 ในปี 2548 และเยี่ยมชมศูนย์ฝึกกีฬาเรือพาย ที่บ้านฉาง จังหวัดระยอง มีน้องๆนักกีฬาเยาวชนและนักกีฬาเรือพายมาสาธิตการฝึกซ้อมให้ได้ดูใกล้ๆ ซึ่งถือว่าทำได้ดีมาก นอกจากนี้เรามีเป้าหมายสำคัญของการกีฬาแห่งประเทศไทยคือจะเข้ามาปรับปรุงศูนย์แห่งนี้เพื่อยกระดับให้ได้มาตรฐาน โดยจะเป็นสนามฝึกซ้อมเรือพายมาตรฐานระดับโลกแห่งเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และแห่งที่ 3 ในเอเชีย

“ด้วยสภาพแวดล้อม และอากาศที่เอื้ออำนวยที่ได้มีโอกาสมาเห็นด้วยตัวเองครั้งนี้ก็ทำให้เชื่อมั่นว่า ประเทศไทยจะสามารถปักหมุดสร้างสนามฝึกซ้อมให้มีมาตรฐานระดับโลกได้อย่างแน่นอน สำหรับในเฟสแรกคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งจะมีหอคอยชมจุดสิ้นสุด (Finish Tower) ซึ่งถือเป็นไฮไลท์อันเป็นเอกลักษณ์สำคัญของศูนย์ฝึกแห่งนี้ด้วย ส่วนในเฟสที่ 2 จะปรับปรุงเรื่องระบบครัวและระบบไฟฟ้าต่างๆ และเฟสที่ 3 จะสร้างสนามแข่งขันเรือพายสลาลม ซึ่งต้องขอขอบคุณผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคน ที่ทุ่มเทแรงกาย และความตั้งใจอยู่เบื้องหลังสร้างสรรค์งานระดับโลกในครั้งนี้”

ศูนย์ฝึกกีฬาเรือพาย ตั้งอยู่บริเวณอ่างเก็บน้ำบางไผ่ ตำบลสำนักท้อน อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง บนพื้นที่ประมาณ 10 ไร่ ประกอบด้วย อาคารที่ทำการศูนย์ฝึก 3 ชั้น, อาคารที่เก็บเรือ, ที่พักนักกีฬา, อาคารอัฒจันทร์ ความจุ 600 ที่นั่ง,โรงอาหาร, สนามฝึกซ้อม, สนามแข่งขันเรือแคนูสลาลอม, อาคารหอคอย, พอนทูน, ลานจอดรถรวม ฯลฯ โดยจะใช้เป็นศูนย์ฝึกซ้อม, สถานที่เก็บตัวฝึกซ้อม และพัฒนานักกีฬาเรือพายสู่ความเป็นเลิศในระดับนานาชาติ รองรับการแข่งขันกีฬาซีเกมส์, เอเชี่ยนเกมส์ และโอลิมปิกเกมส์ รวมทั้งเป็นศูนย์กลางของกีฬาเรือพายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้.

 

กองประชาสัมพันธ์ กกท.
31 มกราคม 2559