รัฐบาลมอบเงินรางวัลนักกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 8 รวมทั้งสิ้น 18,022,500 บาท

26 ม.ค. 59

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบโอวาทและแสดงความยินดี พร้อมทั้ง มอบเงินรางวัล แก่คณะนักกีฬา ที่ได้เหรียญรางวัลจากการแข่งขันกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 8 ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์ โดยมี พลเอกธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี, นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย และนายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย ให้การต้อนรับ ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2559

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอแสดงความชื่นชมยินดี แก่คณะนักกีฬาทีมชาติไทย และเจ้าหน้าที่ที่ประสบความสำเร็จ จากการแข่งขันกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 8 ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์ และทำให้ประเทศไทยกลับมาเป็นจ้าวเหรียญทองในการแข่งขันกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ได้อีกครั้ง แต่เหนือสิ่งอื่นใด คือ การเป็นนักกีฬาที่มีจิตใจมุ่งมั่น ทำสิ่งที่ได้มุ่งหวังไว้ เห็นถึงความตั้งใจ ความพยายาม และความมุมานะ ในการเข้าร่วมการแข่งขัน จนส่งผลให้ประสบความสำเร็จในครั้งนี้ จึงขอให้ทุกคนรักษาความมุ่งมั่นตั้งใจที่ดีนี้ไว้ตลอดไป ทั้งนี้ รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณไว้ให้นักกีฬา ที่ประสบผลความสำเร็จจากการแข่งขัน เพื่อตอบแทนที่ทุกคนได้ช่วยกันสร้างชื่อเสียง สร้างความภาคภูมิใจให้แก่ประเทศและประชาชนชาวไทย ด้วยหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารางวัลที่ได้มอบให้ไปนี้ จะเป็นขวัญและกำลังใจในการทำหน้าที่ให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป สำหรับผู้ที่ไม่ได้รับ เหรียญรางวัล ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า ได้ทุ่มเทแรงกาย แรงใจ อย่างเต็มที่ ความสำเร็จไม่ใช่แค่การได้รับเหรียญรางวัลเท่านั้น แต่เป็นการได้มีส่วนร่วมให้สังคมรับรู้ว่า ความสำเร็จมิใช่ได้มาอย่างง่ายดาย แต่จะต้องมีความเพียรพยายาม มุ่งมั่น และตั้งใจ จนนำชื่อเสียงเกียรติภูมิมาสู่ประเทศชาติ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ มีบทบาท ในการส่งเสริมและสนับสนุนการกีฬาของชาติ โดยคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ได้อนุมัติเงินกองทุนจ่ายเป็นเงินรางวัลให้แก่ นักกีฬา ผู้ฝึกสอน และสมาคมกีฬา ที่ได้เหรียญรางวัลจากการแข่งขันกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 8 ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์ ตามระเบียบหลักเกณฑ์ เป็นเงิน 15,018,750 บาท และปรับเพิ่มเงินรางวัลเป็นกรณีพิเศษเพิ่มขึ้นอีกร้อยละยี่สิบของเงินรางวัลที่นักกีฬา ผู้ฝึกสอน และสมาคมกีฬาได้รับ เป็นเงิน 3,003,750 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 18,022,500 บาท ประกอบด้วย กรีฑา ได้รับ 30 เหรียญทอง 32 เหรียญเงิน และ 22 เหรียญทองแดง รวมเป็นเงิน 4,380,000 บาท, โกลบอล ได้รับ 2 เหรียญทอง รวมเป็นเงิน 900,000 บาท, เทเบิลเทนนิส ได้รับ 17 เหรียญทอง 5 เหรียญเงิน และ 16 เหรียญทองแดง รวมเป็นเงิน 3,060,000 บาท, บอคเซีย ได้รับ 7 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน และ 3 เหรียญทองแดง รวมเป็นเงิน 1,192,500 บาท, แบดมินตัน ได้รับ 5 เหรียญทอง 4 เหรียญเงิน และ 8 เหรียญทองแดง รวมเป็นเงิน 855,000 บาท, โบว์ลิ่ง ได้รับ 2 เหรียญทอง และ 1 เหรียญเงิน รวมเป็นเงิน 420,000 บาท, ฟุตซอลคนตาบอด ได้รับ 1 เหรียญเงิน เป็นเงิน 450,000 บาท, ฟุตบอล 7 คน ได้รับ 1 เหรียญทอง เป็นเงิน 1,050,000 บาท, ยกน้ำหนัก ได้รับ 4 เหรียญทอง 7 เหรียญเงิน และ 3 เหรียญทองแดง รวมเป็นเงิน 637,500 บาท, ยิงธนู ได้รับ 3 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน และ 3 เหรียญทองแดง รวมเป็นเงิน 690,000 บาท, ยิงปืน ได้รับ 7 เหรียญทอง 4 เหรียญเงิน และ 2 เหรียญทองแดง รวมเป็นเงิน 660,000 บาท,ว่ายน้ำ ได้รับ 15 เหรียญทอง 19 เหรียญเงิน และ 22 เหรียญทองแดง รวมเป็นเงิน 2,452,500 บาท และ วีลแชร์บาสเกตบอล ได้รับ 2 เหรียญทอง รวมเป็นเงิน 1,275,000 บาท

 

กองประชาสัมพันธ์ กกท.
26 มกราคม 2559