สาวเอยป้าจะบอกให้ เมื่อไปดูผู้หญิงชิงแชมป์

21 ธ.ค. 61

วันนั้น ตอนใกล้เที่ยง คุณศักดา รัตนสุบรรณ โทรศัพท์ไปที่บ้านบอกว่า วันนี้ประมาณหกโมงเย็นขอเชิญคุณป้าไปแจกถ้วยรางวัลให้กับคู่ชิงชนะเลิศสนุกเกอร์ หญิงสยาม ได้ไหมครับ”

ป้านิ่งอึ้งไปสักครู่แล้วก็ตอบไปว่า “ป้าเสียใจจริง ๆ ที่ไม่รู้ล่วงหน้ามาก่อน ป้ามีนัดเสียแล้ว”

ความจริงป้าก็มีนัดกับลูกหลานไว้จริง ๆ คือจะพาพวกเขาไปเลี้ยงวันเกิดกันตอนค่ำ

พอวางหูโทรศัพท์โดยปฏิเสธไปแล้วก็ให้หงุดหงิดใจ คุณศักดารึแกก็อุตส่าห์ให้เกียรติโทรศัพท์ไปเชิญ ป้าจะบอกปัดไปอย่างไม่มีเยื่อใยอย่างไรได้ พวกลูกหลานน่ะจะเลี้ยงกันเมื่อไหร่ก็ไม่สำคัญ

ป้าเลยเปลี่ยนใจใหม่ บอกเลื่อนวันเลี้ยงไปอีกอาทิตย์หนึ่ง แล้วชวนเขาไปดูสนุกเกอร์ด้วย ไม่มีใครยอมไปสักคน ต้องโทรศัพท์ไปชวนหลานชายที่บ้านอื่นไปเป็นเพื่อน เมื่อเขารับคำแล้วป้าจึงโทรศัพท์ไปบอกคุณศักดาว่าจะไปตามคำเชิญ

เมื่อก้าวเข้าไปในห้องที่จัดไว้เป็นที่แข่งขันบนอาคารมิตรเดือนเด่น ขณะนั้นที่โต๊ะแข่งขันมีคนกำลังแทงสนุกเกอร์อยู่สองคน แรกทีเดียวป้าคิดว่าเป็นชาย ที่ไหนได้พอนั่งเรียบร้อยเพ่งดูแล้วจึงรู้ว่าเป็นหญิง คือ จุ๋ม เตาถ่าน (สายพิณ ทองสัมฤทธิ์) กับ เพ็ญ พัทยา (วันเพ็ญ ทองสัมฤทธิ์) กำลังเริ่มแข่งขันชิงแชมป์

คนดูมีไม่มากนัก เห็นจะเป็นเพราะคู่แข่งขันอยู่ค่ายเดียวกัน และมิหนำซ้ำยังเป็นพี่น้องกันอีกด้วย ในการต่อสู้กัน 7 เฟรม รู้สึกน้องจะเกรงศักดิ์ศรีผู้เป็นพี่อยู่ ก็เลยแทงไม่ค่อยออก จะว่าฝีมืออ่อนกว่าก็ไม่แน่นัก เพราะการที่ได้มาเข้าชิงกับพี่นี้เธอก็ฟาดฟันกับผู้ที่เป็นตัวเก็งคือ “หนึ่ง กำแพงเพชร” และได้น็อคหนึ่งไปแล้วในรอบรองชนะเลิศ เมื่อเพ็ญแทงไม่ออกผลก็ปรากฏว่า จุ๋มผู้พี่ชนะไป 4–0 เฟรม

ป้าไม่ได้เห็นฝีมือ “หนึ่ง กำแพงเพชร” ดอกว่าเป็นอย่างไร แต่เท่าที่ติดตามอ่านข่าวจากคิวทอง และเดลินิวส์ ก็ทราบว่า หนี่งเป็นตัวเต็ง 1 ในการแข่งขันครั้งนี้ ระหว่างที่นั่งดูการแข่งขันมีกรรมการท่านหนึ่งได้แนะนำให้รู้จักกับหนึ่ง ป้าก็ถามหนึ่งดูถึงเรื่องที่พ่ายแพ้ หนึ่งบอกว่าเป็นเพราะความประมาท

“ความประมาท” นี่เป็นจุดอันตรายที่สุดไม่ว่าจะทำอะไรทั้งนั้น เมื่อมีความประมาทเกิดขึ้น สิ่งที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ก็จะเกิดขึ้นได้

ในวงการกีฬา เขาห้ามไม่ให้ใจอ่อนหรืออวดดี เอาชนะได้เท่าไรก็ต้องตั้งใจทำ ให้คิดเหมือนกับเข้าสงครามต้องมุ่งจะเข่นฆ่าฝ่ายตรงกันข้ามท่าเดียว ไม่งั้นเขาจะฆ่าเรา

ตัวอย่างความประมาทนี้ ป้าได้เคยผจญมาแล้วเมื่อคราวชิงแชมป์ประเทศไทย 28–29 ปีก่อนโน้น ตอนจะน็อคคู่ต่อสู้ในรอบรองเพื่อเข้าไปชิงนั้น เฟรมแรกป้าชนะอย่างหลุดลุ่ย เพราะคู่ต่อสู้ฝีมืออ่อนกว่ามาก พอเกมที่สองป้าก็เกิดความประมาท คิดว่าทำอย่างไรเสียก็ไม่มีทางแพ้ ทำแทงลดข้อเหยาะ ๆ แหยะ ๆ ไม่กันไม่คุมเกม พอคู่ต่อสู้มีแต้มนำหน้าจึงเริ่มตั้งใจแทงจริง ๆ แต่เหมือนกับมีผีคอยแกล้งคนที่อวดดี จะแทงอะไรก็ไม่ได้ตามที่ต้องการ ถูกสนุ้กฟลุค ๆ บ้าง ลูกขาวเปลี่ยนบ้าง จะตีกันกลับเอาไปจ่อ ฯลฯ ผลที่สุดเลยแพ้เขาไปในเฟรมที่สอง

ก่อนที่จะเล่นในเกมที่สามให้แพ้ชนะกันไปนั้น (สมัยนั้นแข่ง 3 เฟรม) กรรมการให้หยุดพักเพื่อให้ฝ่ายผู้ชายเขาแข่งขันสนุกเกอร์ชิงชนะเลิศตามกำหนดเวลาเสียก่อน เหมือนกับนักมวยที่ถูกชกจวนจะถูกน็อคอยู่แล้ว พอดีระฆังช่วยเข้าไว้ นี่ถ้าไม่ได้พักตอนนั้น ให้เล่นติดต่อกัน ป้าก็คงแพ้แน่ ๆ เพราะกำลังใจเสียไปหมดแล้ว พอหยุดเล่นก็ออกไปนั่งพักข้างนอกให้พรรคพวกสวดเสียหลายจบ ก็น่าให้เขาว่ากันหรอก มือเหนือกว่าเขามาก แต่ป้าเล่นเหมือนกับคนหัดใหม่

หลังจากนั่งพักประมาณสองชั่วโมง เมื่อคู่ชิงชนะเลิศชายแข่งขันกันเสร็จสิ้นไปแล้ว โดยคุณจรัญ วานิยพงศ์ ชนะ คุณมนัส คันธเสน สองเกมซ้อน ป้าก็ได้เข้าแข่งในเฟรมสุดท้าย ในเฟรมนี้ป้าตั้งใจเล่นอย่างเต็มที่ ไม่ปราณีกันแล้ว ทั้งทำแต้มทั้งกันตั้งแต่ต้นจนจบ ปรากฏว่าชนะอย่างขาดลอย เมื่อเข้าไปชิงในวันต่อมาก็ใช้วิธีเดียวกันถึงได้ชนะรวด

สมัยนี้มีผู้หญิงเข้าแข่งขันกันมาก เห็นว่าตอนแข่งชิงแชมป์ “หญิงสยาม” มีถึง 20 คน เท่าที่ดูจุ๋มกับเพ็ญเล่นกันก็เรียกว่าฝีมือพอใช้ทีเดียว สายตาดี ตบแม่น แต่การกันและวางอีตัวยังไม่สู้ดีนัก ต้องพยายามให้รู้ทิศทางที่ลูกขาวจะวิ่งไป ให้รู้จักการไซด์ การสกรูให้ดีกว่านั้น

เมื่อแรกที่ป้าหัดเล่นนั้น ป้าหัดเล่นบิลเลียดก่อน สนุกเกอร์ไม่ค่อยได้เล่น มาหัดเล่นสนุกเกอร์อย่างจริงจังก็เมื่อมีคนชวนเข้าแข่งขันในครั้งนั้น ป้ามีพื้นทางบิลเลียดอยู่แล้ว การหัดสนุกเกอร์ก็ไม่ยากอะไร เพียงแต่พยายามตบให้แม่น ส่วนชั้นเชิงอย่างอื่นก็ใช้วิธีการของบิลเลียดเข้าช่วยได้สบายมาก

นักสนุกเกอร์รุ่นใหม่นี้ เมื่อหัดเล่นก็มักจะหัดแต่สนุกเกอร์กันเลย ส่วนมากแทงบิลเลียดไม่เป็น เล่นไปนาน ๆ ก็แม่นขึ้น ค่อย ๆ รู้ทิศทางในการวิ่งของลูก คนไหนที่มีไหวพริบดีหน่อยก็สังเกตจดจำเอาวิธีการของคนที่เล่นเก่ง ๆ เข้าไว้ ก็จะทำให้แทงดีขึ้น ฉะนั้นคนที่อยากเล่นสนุกเกอร์ให้ดีเร็ว ๆ ควรจะหัดแทงบิลเลียดให้รู้เอาไว้บ้าง

สมัยก่อนนั้น หาผู้หญิงที่จะหัดเล่นสนุกเกอร์และบิลเลียดมาทำยายาก เพราะตามโต๊ะสาธารณะหรือตามสมาคมนั้นมีแต่ผู้ชาย ผู้หญิงจะเข้าไปหัดเล่นบ้างก็ดูไม่บังควร ถ้าไม่ใช่เจ้าของโต๊ะหรือลูกสาวเจ้าของโต๊ะแล้วก็อย่าหวังเลย จะมีแต่ในวังเจ้านายหรือบ้านคนใหญ่คนโตเท่านั้น ถึงสมัยนี้ก็เถอะ ผู้ที่ไม่ใช่เจ้าของโต๊ะ ลูกสาวเจ้าของโต๊ะหรือมาร์คกี้แล้วก็หมดสิทธิ์ เพราะจะคลุกคลีหัดอยู่นาน ๆ ก็ไม่ได้ ค่าเกมมันแพง อ้ายเรื่องจะกลัวคนค่อนว่าไม่รักนวลสงวนตัว หรือกลัวผู้ชายเกาะแกะกระเซ้าเย้าแหย่น่ะ เขาไม่สนกันแล้ว

ถ้าป้าจะบอกว่า ลูกเจ้าของโต๊ะที่ไม่ได้ความในทางนี้เลย ก็เห็นจะได้แก่ลูกสาวของป้าทั้งสี่คนนั่นแหละ จะหัดเมื่อไหร่ก็ได้ ป้าก็ยินดีจะหัดให้เขา แต่ไม่มีใครสนใจ อย่าว่าแต่จะแทงลูกไม่ถูกเลย ดูว่าเขาเล่นกันยังไงกันก็ดูไม่เป็น

ได้ข่าวว่าเขาจะจัดให้มีการชิงแชมป์สนุกเกอร์หญิงของประเทศไทยขึ้นในเร็ว ๆ นี้ และต่อไปอาจจะมีชิงกันกับต่างประเทศ ทราบมาว่าผู้หญิงทางแถบเอเชียเขากำลังเริ่มหัดกัน คุณผู้หญิงของเราก็ควรเตรียมลงมือซ้อมกันได้แล้ว ต้องซ้อมให้มากทีเดียว ถ้าจะให้ดีจริง ๆ ควรจะมีโค้ชที่เคยมีฝีมือดีมาก่อนอย่างคุณวิเชียร แสงทอง คอยสอนให้ จะทำให้ดีขึ้นอีกมาก

ป้ายังจำคำแนะนำของเขาเมื่อเกือบ 30 ปีได้ เช่น แทงลูกติดชิ่งจะต้องจับคิวอย่างไร ตบลูกจ่อปากหลุมที่ลูกแทงอยู่ไกลไม่ให้ไหลตามกันไปสองลูกจะต้องไซด์อย่างไร จะให้ลูกไปทางที่เราต้องการ ถ้าย้อนสักหลาดจะไซด์ทางไหน ตามสักหลาดจะไซด์ทางไหน วางเรสต์อย่างไรถึงจะดี ฯลฯ คุณกิ๊ดมีทริคในการแทงหลายอย่าง

การปฏิบัติตัวให้เป็นนักสนุกเกอร์ที่ดีนั้น หญิงหรือชายก็ต้องทำอย่างเดียวกัน ป้าเคยเขียนแนะนำต๋องไว้แล้วในจดหมายถึงต๋องฉบับแรก คุณศักดาเอาไปลงในคิวทองฉบับที่ 35 คงจะมีเหลือจากขายอยู่บ้าง ไปหาอ่านเอาได้ ถ้าเขียนมาอีกก็จะซ้ำกันไป ป้าเชื่อว่าผู้หญิงคงจะทำตามได้ง่ายกว่าผู้ชาย

มีอีกอย่างหนึ่งที่ป้าใคร่จะขอแนะนำ คือเรื่องการแต่งตัว หน้าตาจะสวยหรือไม่สวยไม่สำคัญ ในวันแข่งขันขอให้แต่งตัวสวยเข้าไว้ทุกครั้ง ถ้าเขาไม่จำกัดสีเสื้อว่าให้เป็นสีขาว ก็ใช้เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีอ่อน ๆ ใส ๆ ทับด้วยเวสท์ ส่วนโบว์หูกระต่ายหรือไทผูกแล้วทำให้สวยขึ้นอีกเยอะแยะ มองแล้วมีสง่าราศีคนดูก็เพลินตาไปด้วย ทั้งเสื้อและกางเกงก็อย่าให้คับมากนักจะทำให้แทงไม่สะดวก แขนเสื้อไม่ควรพับขึ้นไปจะทำให้ดูไม่สุภาพ เวลาซ้อมก็ควรจะใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาวซ้อมจะได้เคยชิน

นี่เป็นข้อคิดเห็นของป้าหลังจากที่ได้ไปดูผู้หญิงเขาแทงสนุกเกอร์แข่งขันกัน ถ้าใครเห็นดีด้วยก็ทำตาม ถ้าเห็นว่าไร้สาระ เมื่ออ่านแล้วก็ลืมไปเสียเถอะ!

 

โดย บุษบง มุ่งการดี

(ตีพิมพ์ในนิตยสารคิวทอง ปีที่ 4 ฉบับที่ 43 ประจำเดือน เมษายน 2531)