เลิกทำคิวทอง - ป้อมยาม หมู่โฮม

7 ธ.ค. 61

เลิกทำคิวทอง

เสียงตะโกนจากชั้น 3 ลงมายันหน้าป้อมยาม ผมกำลังหลับ ๆ ตื่น ๆ ตามสไตล์คนเฝ้าป้อม ถ้าอยู่ในเวลางาน หรือในเครื่องแบบมักจะมีอาการง่วง

แต่ถ้าเลิกงานเมื่อไหร่ นี่หูตาสว่าง เป็นธรรมดาของมนุษย์โลกจริง ๆ

เสียงดังมาแต่ไกล ยังไม่ทันจับใจความได้ ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมา เสียงปลายสายไม่ใช่ใครนั่นคือ ป๋าศักดา หรือ มิสเตอร์คิวทอง

“ส่งต้นฉบับเล่มนี้หน่อย เป็นเล่มสุดท้ายแล้วนะ เลิกทำหนังสือแล้ว”

ไอ้เราก็ตกใจ เพราะผู้ปลุกผีวงการสอยคิวถึงกับบอกคำนี้กับเรา....เลยล่ะหรือ!?!?!?

คนรักหนังสือ เติบโตจนคนรู้จักก็เพราะทำหนังสืออย่าง ป๋าศักดา ถึงกับเลิกทำหนังสือ ถ้าบอกกันตามตรงก็คือ ไม่ใช่หมดไฟหรอก ไม่มีทาง

แต่ยอมรับถึงความเปลี่ยนแปลงมากกว่า เพราะปัจจุบันโลกออนไลน์มันไปไวยังกับไฟไหม้ฟาง

คนไทยก็ชอบอยู่แล้ว ในสไตล์ต้องเร็ว, ต้องรู้ก่อน งานนี้ถูกจริตแบบไม่ต้องดัด

เมื่อเป็นแบบนี้ถึงเวลาต้อง “ปิดหนังสือ” แล้วไปเปิด “ออนไลน์” ทำอย่างเต็มตัวสู้กันต่อไป ในสไตล์คนที่ชอบการสอยคิวเป็นชีวิตจิตใจ ก็อย่างที่ “ลุงตุ๊ ตำแย” หรือ “หมู่โฮม” เจ้าของป้อมผู้ล่วงลับเพื่อนรักของป๋าศักดาว่าเอาไว้

“ถ้าศักดาคิดจะรวย เขาไม่ทำหรอกคิวทอง.....เค้าไปทำคิวมอเตอร์ไซด์ ไม่ดีกว่าเร๊อะ”!!!

คนเฝ้าป้อมมีกี่รุ่น

ว่ากันถึง “ป้อมยามหมู่โฮม” ที่ยืนหยัดอยู่กับหนังสือเล่มนี้มาโดยตลอด ตั้งแต่เล่มแรกยันเล่มสุดท้าย

มีคนเขียนอยู่ทั้งหมด 3 คนด้วยกัน

แน่นอนคนแรกคือเจ้าของป้อม ที่ตอนนี้ไปเล่นกีตาร์ขับขานเพลงอยู่ที่ไหนสักแห่งในจักรวาลนี้อย่าง “หมู่โฮม” เจ้าของสโลแกน Love Me Love My Horse

หลังจากการจากไปของ “หมู่โฮม” หรือ “ตุ๊ ตำแย” ทำให้คอลัมน์ตรงนี้ต้องมาเขียนโดย มิสเตอร์คิวทอง เพื่อนรักของหมู่โฮม แต่วันนึงก็ทนไม่ไหว เนื่องจากเวลาเขียนหนังสือ มิสเตอร์คิวทอง ยืนยันว่าจริงจัง ไม่ใช่คนตลก

จังหวะพอดี “อ้ายเณร” เดินผ่านมาในช่วงพิจารณาหาคนมาเฝ้าป้อม เลยโดนให้เขียนนับจากนั้นเป็นต้นมา เป็นเวลากว่า 6 ปี

ฝืดมั่งขำมั่งเป็นเรื่องธรรมดา เพราะใครกันล่ะ?!?!? จะทำหน้าที่มองแก้วเป็นกลม มองนมเป็นก้น ได้เหมือนกับ ลุงตุ๊

“หน้าทารก แต่หน้าอกทารุณ” อันนี้ต้องยอมใจแก

ในฉบับแรกที่ได้เขียนแทนยังจำได้ว่า นั่งถึงตี 4 ยังเขียนไม่ออก หน้าของเจ้าของป้อมลอยไปลอยมาตรงคอมพิวเตอร์ แรก ๆ ไม่เท่าไหร่ คิดไปคิดมา เริ่มน่ากลัวเข้าไปทุกที ตัดสินใจขอหนีไปนอนก่อนดีกว่า บอกตรง ๆ กลัวผีหมู่โฮม กลัวผีลุงตุ๊!!!

ยิ่งกว่ามวยล้มต้มคนดู เมื่อเข้าไปนอนอยู่ ๆ ก็ฝันว่า หมู่โฮมมาจับมือเขียนหนังสือ ซึ่งมันเหมือนเรื่องจริงมาก ๆ

นับจากนั้นก็เขียนเป็นต้นมา จากวันนั้นจนถึงฉบับวันนี้ทิ้งทวนอำลา

ยังไงก็อย่ามาเข้าฝันอีกนะลุงนะ!!!!

ต้นฉบับกับนักเขียน

ภาพที่ผ่านมาหลายรุ่น (หรือเฉพาะรุ่นนี้หว่า) ถือเป็นของคู่กันนั่นคือ “ต้นฉบับ” กับ “นักเขียน” ที่แต่ละคนบอกว่า นี่คือ “วรรณกรรมแห่งความเร่งรีบ”

ถ้าเป็นพวกหนังสือพิมพ์ก็ประมาณว่า “วรรณกรรมรายวัน” กันเลยทีเดียว

“นิตยสารคิวทอง” ก็เช่นกัน อ้ายเณร ได้ยินเป็นประจำกับการทวงถามถึงต้นฉบับ ตั้งแต่ยุคก่อนโน้นจนถึงตอนนี้ ทั้งการโทรศัพท์ตามเองของ “คิวทอง” และปัจจุบันคือ “หนุ่ย ตุ๊ยหล่า”

“ไอ้พวกนี้ส่งต้นฉบับกันช้าจริง ๆ เดี๋ยวกูเขียนคนเดียวหมดเลย” ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า ใครพูด 555

นาทีปัจจุบันกระทั่งฉบับสุดท้ายก็ยังเหมือนเดิม วิญญาณของนักเขียนมันเป็นแบบนี้จริง ๆ ทั้งที่ “ของมี” แต่ไม่ปล่อยซะที

รอจนโดนด่าโดนตามนั่นแหละ ไหลกันมาเป็นชุดเลย

ที่สุดของที่สุด “คิวทอง”

อดทนที่สุด : มิสเตอร์คิวทอง

ขึ้นปกบ่อยที่สุด : ต๋อง ศิษย์ฉ่อย

ตลกที่สุด : ลุงตุ๊ ตำแย

ขวัญใจวัยหวาน : ต๋อง ศิษย์ฉ่อย

ขวัญใจวัยวุ่น : เอฟ นครนายก

ขวัญใจวัยว่าว : หมู ปากน้ำ

เสียงดังที่สุด : สมขวัญ สยามกีฬา

เสียงเบาที่สุด : สมขวัญ สยามกีฬา เวลาโดนกิน

เบาหวานกินมากที่สุด : ติ๊ก สากล

นิ่งที่สุด : รมย์ สุรินทร์

สอนมากที่สุด : ต่าย พิจิตร

ตัดสินมากที่สุด : จอม อัลคาซาร์

อวบมากที่สุด : กร นครปฐม

เบสิคมากที่สุด : ซันนี่ อรรคนิธิ์

จ่ายมากที่สุด : เฮียฮง

โพสต์มากที่สุด : หมู ปากน้ำ

ยิ้มมากที่สุด : เอ๋ พนม

ยืมมากที่สุด : ตัวเล็ก สำโรง

จำแม่นที่สุด : เจ้าหนี้ของตัวเล็ก

เขียนข่าวมากที่สุด : บี แหลมสิงห์ กับ สกุลโอ๋

หล่อมากที่สุด : เจ้าของคอลัมน์นี้แหล่ะ

แมตช์แห่งความทรงจำ : “นุ้ก” ปราบ “นุ้ก” ลิ่วชน “นุ้ก” ศึกสนุ้กฯ ประเทศไทย

คือเรามีหมด นุ้ก จันท์, นุ้ก สากล และนุ้ก คอนหวัน

 

อ้ายเณร

(ตีพิมพ์ในนิตยสารคิวทอง ฉบับที่ 433)