"ต๋อง" ขอพิสูจน์ปีสุดท้าย หากร่วง 64 โลกขอบาย !!

"ต๋อง" ขอพิสูจน์ปีสุดท้าย หากร่วง 64 โลกขอบาย !!

     ในยุทธจักรสอยคิวโลก ใครบ้างไม่รู้จักชื่อของ "ไทยทอร์นาโด" รัชพล ภู่โอบอ้อม หรือ "ต๋อง ศิษย์ฉ่อย" อดีตนักแทงมือ 3 ของโลกผู้ทรนง ที่เคยสร้างตำนานและปรากฏการณ์ต่างๆ เอาไว้มากมาย

     จนถึงขนาดรัฐบาลไทยในสมัยก่อนแต่งตั้งให้ "เจมส์ วัฒนา" เป็นฑูตทางด้านกีฬาคนแรกของประเทศ เพื่อให้เขานำวัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม โดยเฉพาะการ ยกมือพนมไหว้ไปรอบโต๊ะทั้งสี่ทิศ เพื่อแสดงความยินดีและขอบคุณ ให้ฝรั่งตาน้ำข้าวได้รับรู้ว่า เมืองไทยเรานั้นมีดีอย่างไรบ้าง

    แน่นอนความโด่งดังของอดีตเด็กหนุ่มที่เคยอาศัยอยู่ในชุมชนสลัมคลองเตย แต่ตัวเขาได้ถีบตัวเองออกมาจากสิ่งเสื่อมโทรม ด้วยสองมือสองแขนและไม้คิวหนึ่งอัน ก้าวไปสู่นักแทงเทิร์นโปรอาชีพโลกได้เต็มความภาคภูมิมานานเกือบ 30 ปี

    แม้ว่า ทุกวันนี้ผลงานของ "ต๋อง ศิษย์ฉ่อย" จะไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่นัก หลังต้องตกต่ำสุดหลุด ท็อปมือ 64 ของโลก กลับมาใช้ชีวิตในเมืองไทยหลายครั้งติดต่อกัน แต่เขาก็เปรียบเสมือน "แมว 10 ชีวิต" ที่ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ

     ยังคงรวบรวมพละกำลังกายและใจที่ตัวเองมีอยู่ ต่อสู้บนถนนคนแบกคิวโลก ให้ไปสู่ผลงานที่ดีขึ้นกว่าที่้เป็นอยู่ ณ วินาทีนี้

    โดยเฉพาะตั้งแต่เปิดซีซั่นมาตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา "ต๋อง" ปีนี้ถือว่า เป็นปีสุดท้ายของตัวเองในการพิสูจน์ฝีมือในเวทีอาชีพโลกที่อังกฤษ ทำอย่างไรก็ได้ ตัวเขาจะต้องทำคะแนนสะสมอาชีพโลกให้ติดท็อป 64 โลก หากต่ำกว่านั้น โอกาสที่เจ้าตัวจะต้องแขวนคิวในเวทีอาชีพโลกค่อนข้างสูง

    เนื่องจากก่อนหน้านี้ รัชพล เคยเปรยๆ กับคนใกล้เคียงว่า ถึงจุดอิ่มตัว และเบื่อการเดินทางไปแข่งขันอาชีพโลกระหว่างประเทศอังกฤษกับเมืองไทยเต็มทนซะเหลือเกิน เพราะความท้าทายอะไรต่างๆ เวลานี้ มันเปลี่ยนยุคเปลี่ยนสมัยไปแล้ว ตัวเขาเองที่ยังทนลงแข่งขันก็เพื่อต้องการพิสูจน์ให้ผู้คนทั่วโลกรู้ว่า ตัวเขายังมี "เขี้ยวเล็บ" และ "ลายเสือ" ให้ทุกคนได้เห็นและเกรงกลัว

      ที่สำคัญไปกว่านั้น เงินสนับสนุนจากสปอนเซอร์ ก็คือ แสงโสม ให้กับเจ้าตัวมากถึง 1,500,000 บาท จึงเป็นงานท้าทายที่เจ้าตัวจะต้องพยายามตั้งใจทุ่มเทเต็มที่ และทำให้ดีที่สุด

     ล่าสุด รัชพล ภู่โอบอ้อม ได้เปิดหัวใจให้รับฟังว่า ฤดูกาลที่แล้วตัวเองมีภารกิจสำคัญหลายอย่าง ทำให้ไม่ได้ลงแข่งขันรายการหลักสำคัญไปหลายรายการ แถมบางรายการกำลังอยู่ในฟอร์มที่ดี แต่ก็ดันมาเจอกับคู่ต่อกรที่แข็งแกร่งและอันดับโลกเหนือกว่า จึงทำให้ผลงานออกมาอย่างที่เห็น

      แน่นอนว่า ในซีซั่นนี้ตัวเองจะต้องเร่งทำคะแนนสะสมอาชีพโลกให้ดีที่สุด ทุกรายการเลยทีเดียว เริ่มจากลงแข่งขันอันดับแรกจะพยายามไม่ให้ตกรอบแรกทุกรายการ และถ้าหากเราโชคเข้าข้างก็อยากผ่านเข้าไปสู่รอบลึกๆ หรือคว้าแชมป์ให้ได้สัก 1 รายการ เพื่อหวังทำคะแนนสะสมอาชีพโลกติดกลุ่มท็อป 64 คนแรกให้ได้

   เนื่องจากในปีนี้เป็นปีสุดท้ายของตัวเองแล้ว หากผลงานยังไม่กระเตื้องขึ้นมาอีก คงถึงเวลาพิจารณาตัวเองในการเลิกเล่นสนุกเกอร์อาชีพโลกอย่างเป็นทางการแล้ว แต่การแข่งขันอาชีพในเมืองไทยยังคงแข่งขันอยู่ เพื่อสร้างสีสันให้กับคนทั่วไป เพราะในเมืองไทยตัวเองก็ยังเชื่อมั่นว่า ไม่แพ้ใครง่ายๆ เหมือนกัน หากใครคิดจะเอาชนะตัวเองได้ ก็ต้องท็อปฟอร์มมากพอสมควร

       อีกทั้งตัวเองเกิดจากตรงจุดนี้ จะให้เลิกเล่นไปแบบทันทีทันใดคงทำไม่ได้ ในทางกลับกันอาจจะมีความรู้สึกที่ดีเวลามาอยู่เมืองไทย ได้เจอเพื่อนฝูงและคนในวงการเดียวกันมากขึ้นด้วย เพราะเวลานี้ตัวเองก็อายุมากแล้ว แถมยังมีครอบครัวทั้งภรรยา-ลูกชาย และคุณแม่ แถมยังมีญาติพี่น้องอีกหลายคนให้คอยดูแลช่วยเหลือ จึงเป็นเรื่องยากที่จะทิ้งกีฬาที่ตัวเองรักไป

     เพราะตลอดเกือบ 30 ปี ที่ตัวเองเทิร์นโปรเป็นนักสอยคิวอาชีพโลก สร้างผลงานให้กับสมาคมฯ และประเทศชาติมาแล้วมากมาย จนผลงานขยับไปถึงมือ 3 ของโลก แน่นอนมันย่อมถึงจุดอิ่มตัวเป็นธรรมดา และอยากเปิดโอกาสให้กับนักสอยคิวรุ่นน้องๆ ได้ขึ้นมาทดแทนบ้าง แต่ทุกวันนี้ก็ยังไม่เห็นมีนักแทงดาวรุ่งคนไหนไปได้ไกลกว่าตัวเองสักคน

       อีกทั้งตัวเองเกิดจากตรงจุดนี้ จะให้เลิกเล่นไปแบบทันทีทันใดคงทำไม่ได้ ในทางกลับกันอาจจะมีความรู้สึกที่ดีเวลามาอยู่เมืองไทย ได้เจอเพื่อนฝูงและคนในวงการเดียวกันมากขึ้นด้วย เพราะเวลานี้ตัวเองก็อายุมากแล้ว แถมยังมีครอบครัวทั้งภรรยา-ลูกชาย และคุณแม่ แถมยังมีญาติพี่น้องอีกหลายคนให้คอยดูแลช่วยเหลือ จึงเป็นเรื่องยากที่จะทิ้งกีฬาที่ตัวเองรักไป

     เพราะตลอดเกือบ 30 ปี ที่ตัวเองเทิร์นโปรเป็นนักสอยคิวอาชีพโลก สร้างผลงานให้กับสมาคมฯ และประเทศชาติมาแล้วมากมาย จนผลงานขยับไปถึงมือ 3 ของโลก แน่นอนมันย่อมถึงจุดอิ่มตัวเป็นธรรมดา และอยากเปิดโอกาสให้กับนักสอยคิวรุ่นน้องๆ ได้ขึ้นมาทดแทนบ้าง แต่ทุกวันนี้ก็ยังไม่เห็นมีนักแทงดาวรุ่งคนไหนไปได้ไกลกว่าตัวเองสักคน

      เวลานี้เท่าที่เห็นก็มีเพียงแค่ "แจ๊ค สระบุรี" เดชาวัต พุ่มแจ้ง มือ 48 ของโลก และ “เอฟ นครนายก” เทพไชยา อุ่นหนู มือ 47 ของโลก เท่านั้นที่มีโอกาส ส่วนคนอื่นๆ จะต้องใช้เวลาในการฝึกฝนพัฒนาตัวเองทั้งสมาธิและจิตใจ รวมไปถึงความรับผิดชอบในด้านต่างๆ ของการเป็นนักสนุกเกอร์อาชีพที่ดีอีกมาก

      ส่วนตัวก็ได้ตั้งใจเอาไว้แล้วว่า หากปีนี้ผลงานยังย่ำแย่ ไม่ติด 1 ใน 64 ของโลก ก็คงจะต้องยุติบทบาทของตัวเองทันที และคงหันมาหาทำธุรกิจ อาทิ กิจการเกี่ยวกับไม้คิว, โต๊ะสนุกเกอร์ และ ค้าขายต่างๆ ในเมืองไทย เพราะตัวเองก็มีพรรคพวกเพื่้อนฝูงมากมายที่คอยให้การแนะนำและช่วยเหลืออยู่

    แต่เรื่องสนุกเกอร์กับตัวเองมันตัดกันไม่ขาดแน่ เนื่องจากเรามีวิชาความรู้ในเรื่องนี้มาเกือบทั้งชีวิต คิดว่า หากมีโอกาสก็น่าจะเอาประสบการณ์ที่เรามีอยู่มาช่วยพัฒนานักสอยคิวน้องๆ ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม

  เพราะเวลานี้กีฬาสอยคิวในบ้านเรายังหาตัวตายตัวแทนตัวเองไม่ได้เลย จึงทำให้หลายคนที่อยู่ในวงการนี้รู้สึกกังวลใจและเป็นห่วงอย่างมาก แต่ ณ เวลานี้ตัวเองขอยืนหยัดที่จะต่อสู้อย่างทรนงสมศักดิ์ศรี ในการแข่งขันสนุกเกอร์อาชีพโลกปีนี้อย่างเต็มที่และดีที่สุด

     คาดว่า ด้วยกำลังใจที่ดีจากทุกฝ่าย โดยเฉพาะแฟนคลับ จะทำให้ตัวเองฝ่าฟันวิกฤติดังกล่าวที่เกิดขึ้น ไปสู่เป้าหมายความสำเร็จที่ตั้งใจไว้ได้ ขอให้ทุกคนติดตามและให้กำลังใจกันด้วยนะครับ

 ต้นสัก เรื่อง