"ชิงดำ" สอยคิวยอดฮิตย้ายจากช่อง 7 มาแข่งช่อง 3 ถ่ายทอดสด 17.30-18.00 น. เริ่มต้น ต.ค. นี้

29 ก.ย. 58

ศึกสอยคิวที่ได้รับความสนใจมากที่สุดทางช่อง 7 สีเมื่อ 25 ปีก่อน กลับมาแข่งอีกครั้งทางช่อง 3 SD โดยทีมงานชุดเดิม นำโดย พิศณุ นิลกลัด เริ่มตั้งแต่ 1 ต.ค. 58 แข่งตั้งแต่จันทร์ถึงศุกร์เวลา 17.30-18.00 น. มีทีมชาติ-เยาวชนและแขกรับเชิญ โดย ชิงดำ ลูกเดียวรู้ผล ใครแพ้ตกรอบทันที

รายการยอดฮิตสนุกเกอร์ชิงดำทางช่อง 7 สี ที่ฮือฮามากที่สุดเมื่อ 25 ปีก่อน ถูกรื้อฟื้นกลับมาจัดอีกครั้งโดย คุณสุรางค์ เปรมปรีดิ์ อดีตผู้บริหารช่อง 7 สี พร้อมทีมงานชุดเดิม นำโดยอดีตนักข่าวและผู้ประกาศข่าวชื่อดังพิศณุ นิลกลัด ได้นำรายการ ชิงดำ กลับมาจัดอีกครั้ง เริ่มตั้งแต่ 1 ต.ค. เวลาดีช่วงเย็น 17.30-18.00 น. ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 SD โดยจัดแบ่งการแข่งขันออกเป็น 3 ประเภทคือ อาชีพ-เยาวชน และแขกรับเชิญ แต่ละประเภทจะมีผู้เข้าแข่งขัน 16 คน ชิงดำกันลูกเดียว ใครพลาดท่า ตกรอบทันที ซึ่งเชื่อว่าจะได้รับความสนใจจากผู้ชมทางบ้านเหมือนในอดีตที่เคยจัดทางช่อง 7 สี

นายพิศณุ นิลกลัด ผู้ดำเนินรายการเปิดเผยว่า คุณสุรางค์ เปรมปรีดิ์ อดีตผู้บริหารช่อง 7 สี อยากให้บรรยากาศสนุกเกอร์เก่าๆ กลับคืนมาอีกครั้ง โดยเฉพาะการแข่งขัน สนุกเกอร์ชิงดำ ที่ได้รับความสนใจมากที่สุดเมื่อ 25 ปีก่อน ซึ่งช่วงนั้นจัดให้มีการแข่งขันช่วงดึก 24.00 น. ยังได้รับความสนใจจากผู้ชมมาก เพราะมีแขกรับเชิญทั้ง นักแสดง-นักร้อง-ตลกและแขกระดับ วีไอพี. มาสร้างความครึกครื้น จึงอยากเห็นบรรยากาศเดิมๆ จึงได้จัดการแข่งขัน ชิงดำ อีกครั้ง แต่หนนี้จัดที่ทีวี.ช่อง 3 SD ช่อง 28 โดยจะมีการแข่งขันรวม 3 ประเภทคือ ประเภทมืออาชีพ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นนักสอยคิวทีมชาติจำนวน 16 คน นอกจากนี้ยังมีประเภทเยาวชนอีก 16 คน และแขกวีไอพี.อีก 16 คน โดยใช้ระบบการแข่งขัน ชิงดำลูกเดียว ใครพลาดท่ากลับบ้านทันที ส่วนผู้ชนะรอเข้ารอบแข่งขันในวันถัดไป ซึ่งผู้ชนะเลิศแต่ละประเภทจะมีเงินรางวัลให้ ส่วนแขกรับเชิญหากใครชนะเลิศต้องนำเงินรางวัลมอบให้กับ การกุศล ซึ่งจะมอบให้ใคร ทางผู้จัดจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

การแข่งขันสนุกเกอร์ชิงดำเริ่มแข่งขันตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 1 ต.ค. 58 เป็นต้นไป สัปดาห์ละ 5 วัน ตั้งแต่จันทร์ถึงศุกร์ในเวลา 17.30-18.00 น. โดยมีกติกา หากภายใน 4 นาที ยังไม่รู้ผลแพ้ชนะ จะต้องใช้วิธี ขึ้นชิ่ง ใครใกล้ชิ่งมากที่สุดถือว่าเป็นผู้ชนะ ได้เข้าไปเล่นในรอบต่อไป โดยกำหนดเวลาก็เพื่อให้การแข่งขัน 3 ประเภทจบภายในเวลา ครึ่งชั่วโมง ซึ่งคาดว่าจะได้รับความสนใจจากผู้ชมทั่วประเทศ โดยเฉพาะนัดประเดิมจัดให้ แชมป์เยาวชนโลก บุญญฤทธิ์ เกียรติกุล (ไฟว์ นครนายก) ปะทะแชมป์โลกซีเนียร์ พิสิษฐ์ จันทร์ศรี (หยิก สำโรง) ซึ่งสามารถครองแชมป์โลกสูงอายุ 2 ปีซ้อน นอกจากนี้ยังมี ณัชชารัตน์ วงศ์หฤทัย (มิ้งค์ สระบุรี) เจ้าของเบรกสูงสุดประเภทหญิง ในการแข่งขันระดับโลก พบ ชนิสรา คงอิ่ม อดีตทีมชาติ ใครที่เป็นแฟนสนุกเกอร์ติดตามการแข่งขันได้จากช่อง 3 SD โดยถ่ายทอดสดจากห้องส่งช่อง 3 อาคารมาลีนนท์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนโต๊ะแข่งขันจาก คุณเชนศักดิ์ พุ่มมณีกร เจ้าของบริษัทบางขุนเทียนบิลเลียด ได้นำโต๊ะชั้นดีมาใช้ เพื่อให้การแข่งขันมีมาตรฐานยิ่งขึ้น