“คิวทอง” สู้ต่อครับ

28 ธ.ค. 60

จะ เชื่อหรือไม่ ก่อนที่ท่านผู้มีอุปการคุณจะหยิบนิตยสารเก่าแก่ คิวทอง ฉบับนี้ขึ้นมาอ่าน ผมตัดสินใจไม่ถูก จะสู้ต่อหรือว่าเลิกผลิตตามหนังสือที่ขายดีที่สุดในประเทศคือ คู่สร้าง-คู่สม ของเพื่อนรัก ดำรง พุฒตาล ซึ่งปิดตำนานหนังสือน้ำดีที่ขายมากว่า 38 ปีโดยสิ้นเชิง

“บังเลาะห์” หรือ ดำรง พุฒตาล ออกมาเปิดใจกับทีวี.หลายช่อง ถึงความจำเป็นที่ต้องยุติหนังสือ คู่สร้าง-คู่สมที่ตัวเองทุ่มเทเอาใจใส่มาเกือบ 4 ทศวรรษ สาเหตุใหญ่มาจาก คนไม่อ่าน ทำให้ยอดผลิตน้อยลงเพราะทุกคนต่างหันไปสนใจ โลกโซเชียล รู้ข่าวสารรวดเร็วโดยมีโทรศัพท์แค่เครื่องเดียวรู้ทุกเรื่อง ตั้งแต่

สากกะเบือยันเรือรบ

หนังสือพิมพ์ทั้งรายวัน-รายสัปดาห์-รายปักษ์-รายเดือนและรายสะดวก สะเทือนจนปิดตัวเองเป็นแถวรวมถึง สถานีโทรทัศน์อีกหลายช่องโดยเฉพาะ ช่องดิจิตอล เริ่มทยอยหายทีละช่องจนเหลือไม่กี่ช่อง ที่ยังอยู่ก็ใช่จะราบรื่นต่างหนาว ๆ ร้อน ๆ เพิ่มรายการเด็ดดึงดูดคนดูกันเป็นแถวทั้ง เสี่ยฮ้อ-อากู๋-ช่อง 23 ช่อง 26 ช่อง 28 และช่อง 32 ก็อยู่ในโซนอันตราย ใช่จะปลอดภัยในการผลิตรายการทีวี.

ผมนำเรื่องของ สื่อ ทั้งหนังสือพิมพ์-ทีวี.มาบอกกล่าว ก็เพื่อชี้ให้เห็นชัดขนาดยักษ์ใหญ่เหล่านี้ยังแทบ อยู่กันไม่ได้ นับประสานิตยสารเล็ก ๆ อย่าง คิวทอง จะอยู่ได้อย่างไร? เท่าที่ผ่านมา 33 ปี ยืนหยัดอยู่ได้ต้องบอกว่า ปาฏิหาริย์มีจริง ซึ่งหลายต่อหลายครั้งที่ คิวทอง ล้มลุกคลุกคลาน หากเป็นสิ่งมีชีวิตก็ต้องอยู่ห้องไอซียูทำท่าจะ หมดลม แต่แล้วก็มีพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยทุกครั้งไป

การทำหนังสือให้คนอ่านเปรียบเสมือน ร้านขายกาแฟ ขายอาหาร หากไม่มีคนกินร้านก็อยู่ไม่ได้เจ๊งชัยตามระเบียบ คิวทอง ก็เหมือนหนังสือ คู่สร้าง-คู่สม ที่คนอ่านน้อยลงเพราะสู้โลกโซเชียลไม่ได้ถึงขนาด ศักดา รัตนสุบรรณ คนต้นคิดทำหนังสือสนุกเกอร์และทำให้วงการสอยคิวโด่งดังทุกวันนี้ถึงกับประกาศผ่าน ไทยรัฐ-เดลินิวส์ ขอปิดตัวเองหลังสิ้นสุดปี 2560 ท่ามกลางความฉงนของบางคนที่มีความผูกพันกับนิตยสารฉบับนี้ หลายคนโทร.มาแสดงความเสียดาย ในขณะที่อีกหลายคนก็ขอให้สู้ต่อ หนึ่งในจำนวนนี้มีว่าที่นายกสมาคมกีฬาบิลเลียดคนใหม่

สุนทร จารุมนต์ โดยขอให้สู้ต่อเพราะ นิตยสารคิวทอง เป็นสื่อฉบับเดียวที่ต่อสู้เพื่อวงการสนุกเกอร์มาตั้งแต่ปี 2528 ซึ่งในช่วงบูมใหม่ ๆ เจ้าของกิจการ ประสบปัญหาเรื่องถูกตรวจ ถูกจับ ไม่เว้นแต่ละวันและได้ คิวทอง นี่แหละที่คอยปกป้องถึงขั้นยุให้ เจ้าของโต๊ะที่ถูกจับสู้คดีข้อหาที่ตำรวจยัดเยียดคือ เปิดให้เล่นพนัน ซึ่งปรากฏว่าเจ้าของโต๊ะชนะคดี เพราะตามพ.ร.บ.การพนัน 2478 ระบุให้บิลเลียด-สนุกเกอร์เป็นการพนัน เมื่อเป็นการพนันตำรวจก็ไม่มีสิทธิ์มาจับ เขียนมาจวนจะจบยังไม่ได้สรุปว่า คิวทอง จะสู้หรือจะหยุด

และในที่สุดผมก็ตัดสินใจสู้ต่ออีกยก

ไหน ๆ ก็ไหน ๆ ขาดทุนจนไม่มีจะควักยังจะกลัวอะไรก็ขอ สู้ต่อ เพราะได้รับแรงหนุนจาก พันธมิตร ช่วยเหลือ ล่าสุดต้องขอบคุณ “บิ๊กเสือ” สกล วรรณพงษ์ ผู้ว่า กกท. ที่ให้งบสนับสนุนทีมงานคิวทองจงสู้ต่อไป จึงเป็นสิ่งพิสูจน์ให้เห็น

มิตรแท้พิสูจน์เห็นก็ในยามตกยาก

 

ศักดา รัตนสุบรรณ

(ตีพิมพ์ในนิตยสารคิวทอง ฉบับที่ 422)