รอนนี่ชวดแชมป์โลก เมื่อ “ราชัน” ฝันสลาย!!!!

19 พ.ค. 59

ศึกสอยคิวชิงแชมป์โลกหลายคนบอกว่า มันจบไปตั้งแต่รอบ 16 คน!!!

หลังจากรอบแรก นีล โรเบิร์ตสัน แชมป์โลก ปี 2010 ที่แทงได้เร้าหทัยตกรอบไปเป็นคนแรก ต่อด้วย “ไอ้ปืนกล” จัดด์ ทรัมป์

และที่ขำไม่ออกคือ “เดอะ ร็อคเกตส์” รอนนี่ โอซุลลิแวน แชมป์โลก 5 สมัย และเต็ง 1 ของรายการ

รอนนี่ ทำแฟนสอยคิวทั้งโลกต้องผิดหวัง เมื่อกระเด็นตกรอบ ด้วยน้ำมือของ “เหยี่ยวถลาลม” แบร์รี่ ฮอว์กินส์ ไปหวุดหวิด 12-13 เฟรม ที่ครูซิเบิ้ล เธียเตอร์ เมืองเชฟฟิลด์ ประเทศอังกฤษ

ทั้งที่ปกติเจอกันนี่แทบจะไล่เตะรอบเวทีเลยทีเดียว

การพ่ายแพ้ของ รอนนี่ หนนี้นับเป็นครั้งแรกในรอบ 14 ปีที่เขาแพ้ให้กับ ฮอว์กินส์ โดยหนสุดท้ายที่ รอนนี่ แพ้ต้องย้อนไปเมื่อปี 2002

หลังจากนั้นเจอกัน รอนนี่ ชนะ 10 ครั้งติดต่อกัน

แถมยังเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 13 ปีที่ รอนนี่ ไม่ผ่านเข้าสู่รอบ 8 คนสุดท้าย โดยเขาตามหลัง 9-12 เฟรม ก่อนจะไล่ตีเสมอ 12-12 แต่ก็มาแพ้ในเฟรมตัดสิน เฟรมสุดท้าย ฮอว์กินส์ แทงนำ 56-1 เหลือแดงอยู่ 6 ลูก ทั้งหมดโดยแดงไปอยู่ฝั่งเส้นเมือง เลยน้ำเงินลงมาทั้งหมด

ฮอว์กินส์ แทงกัน แต่ รอนนี่ ออกมาสู้แดงไม่เหลือพร้อมกับได้ดำ

รอนนี่ แทงแดงลูกต่อมาแล้วเอามาเตะแดงกับเหลืองที่ติดชิ่งออกมาแล้ว

ตอนนั้น ฮอว์กินส์ นั่งแทบจะกินมือตัวเอง

แล้ว รอนนี่ ก็กินน้ำเงิน

ไม่น่าเชื่อ รอนนี่ แทงแดงลงหลุมกลาง แต่ขาววิ่งมาเปลี่ยน หลุมมุมล่างขวามือ

 

 

แค่นั้นทุกอย่างจบ

มีสถิติที่น่าสนใจก็คือ นับตั้งแต่ปี 2011 เป็นต้นมา ผู้ที่ปราบ รอนนี่ ได้ จะเป็นแชมป์ทั้งหมด

เริ่มจากปี 2011 จอห์น ฮิกกินส์ ชนะ รอนนี่ รอบ 8 คน 13-10 ก่อนจะเป็นแชมป์, ปี 2014 มาร์ค เซลบี้ ชนะ รอนนี่ ในนัดชิงฯ และปี 2015 สจ๊วร์ต บิงแฮม ชนะ รอนนี่ รอบ 8 คน 13-9 ก่อนจะเป็นแชมป์

ส่วนปี 2012 กับ 2013 รอนนี่ เป็นแชมป์ ไม่แพ้ให้ใคร

รอนนี่ บอกถึงเกมนั้นว่า เปรียบได้เหมือนการโยนเหรียญหัวก้อย “ในเฟรมที่เต็มไปด้วยความกดดันเฟรมสุดท้าย ผมรับความกดดันนั้นไปเต็มๆ และขออภัยกับพฤติกรรมอันไม่เหมาะสมหลังจากเขาชนะ เดวิด กิลเบิร์ต ที่ผมไม่ได้มาให้สัมภาษณ์หลังจบรอบแรก ผมมีเหตุผลของผม ผมมีเหตุผลหลายประการ ในห้วงเวลานั้น ผมไม่ได้อยู่ในภาวะที่สมบูรณ์แบบพอที่จะมาให้สัมภาษณ์ใคร ผมไม่ได้แอ๊คเกินฝีมือ ไม่ได้หยิ่งผยองหรือว่า หลบเลี่ยงหน้าที่ที่ต้องให้ข่าวแต่ประการใดนะ”

ส่วนการดวลกับ ฮอว์กินส์ เรื่องของการเล่นที่บอกว่าเหมือนโยนเหรียญเสี่ยงหัวก้อย เป็นเพราะเขามีแทคติคการเล่นที่ยังไม่ดีพอ

“ถ้าเฟรมสุดท้ายนั้นไม่ได้ห่วยแตกเกินห้ามใจขนาดนั้น ผมคงมีโอกาสชนะ ฮอว์กินส์ ไปแล้วละครับ แต่เมื่อ เฟรมมันเป็นยังงั้น มันก็เหมือนการตัดสินโยนหัวก้อยละคุณ ผมเหมือนกับแขนขาอะไรต่างๆ ขึ้นสนิม และถ้าผมจะมีจุดอ่อนอะไรในเกมนั้น ผมว่ามันน่าจะเป็นส่วนของแทคติกในการเล่นนะ เพราะผมไม่ได้ฝึกแทคติกหรือเล่นลูกพวกนั้นมากเพียงพอ”

ว่ากันด้วยเรื่องของ “แทคติค” อันนี้สำคัญมากๆ แม้แต่ รอนนี่ ยังไม่สามารถที่จะสมบูรณ์แบบได้ร้อยเปอร์เซ็นต์

เมื่อเจอการเล่นแบบวางแผนแยบยลตั้งแต่ลูกเปิดเฟรม ทำให้เขาต้องพบกับความยากลำบากในการเล่น

อย่างไรก็ตาม ประเด็นหลังจากฝุ่นควันสงบลงก็คือ รอนนี่ ดูเหมือนว่า จะไม่ค่อยมีความพร้อมเท่าไหร่ในการมาแข่งขันในครั้งนี้

ตั้งแต่รอบแรกที่มาด้วยสภาพสุดโทรม ผมเผ้าไม่ตัด และถ้าหาก เดวิด กิลเบิร์ต ไม่ “เต้น” จนเกินไป บางทีเขาอาจจะไปตั้งแต่รอบแรก

เพราะหนนี้ รอนนี่ แทงไม่ได้ต่างไปจาก จัดด์ ทรัมป์

นั่นคือไม่มีความละเอียดในเกม และไม่ได้แม่นเหมือนกัน ทำให้ทุกอย่างมันออกกลางๆ ไม่มีอะไรถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ทำให้แฟนสอยคิวเซ็งอย่างที่สุด

เมื่อได้ดู รอนนี่ แค่สองรอบเท่านั้นในศึกชิงแชมป์โลก และปกติ รอนนี่ ก็อินดี้เกินเหตุด้วยการไม่ค่อยลงทำการแข่งขัน

ประเด็นต่อไปคือ ซีซั่นหน้า ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร เขาจะเล่นกี่รายการ หรือเขาจะลงเล่นหรือไม่ หรือจะไม่ลงเล่นเลย อันนี้มีโอกาสเกิดขึ้นได้ทั้งหมด

อย่างที่บอกไปว่า คนเรามันมีเส้นคั่นกลาง เป็นเส้นบางๆ บางทีเลยขีดบนไปกลายเป็นอัจฉริยะ แต่บางจังหวะมันตกลงต่ำถึงขีดล่าง

ก็จะเป็นอย่างที่เราเห็น!!!

โดย บี แหลมสิงห์

 (ตีพิมพ์ในนิตยสารคิวทอง ฉบับที่ 402)