แชมป์โลกเปลี่ยนมือ

12 เม.ย. 59

1 ปีผ่านไป...ยอมรับว่าไวจริง!

การดวลคิวศึกชิงแชมป์โลก “เวิลด์ สนุกเกอร์ แชมเปี้ยนชิพ” จะกลับมาบรรเลงเพลงคิวกันอีกครั้งหนึ่งแล้ว

ซึ่งปีนี้จะบรรเลงเพลงคิวกันแทบจะครบ 1 เดือนเต็มๆ

เริ่มดวลคิวรอบคัดเลือกกันก่อน รวม 3 รอบ ที่ “พอนด์ส ฟอร์จ อินเตอร์เนชั่นแนล สปอร์ตส์ เซ็นเตอร์” เมืองเชฟฟิลด์ ตั้งแต่วันที่ 6-13 เมษายน ในระบบ 10 ใน 19 เฟรม

จากนั้น 3 วัน จะเล่นรอบสุดท้าย ที่คัดเอา 32 จอมคิวมาบู๊กันที่สังเวียนศักดิ์สิทธิ์ “ครูซิเบิ้ล เธียเตอร์” ตั้งแต่ 16 เมษายน ยาวไปจนถึง 2 พฤษภาคม

รายการนี้ชิงเงินรางวัลรวมถึง 1,500,100 ปอนด์ และแชมป์จะได้รับเงินถึง 330,000 ปอนด์เลยทีเดียว

ย้อนกลับไปเมื่อปีก่อน “ไอ้ลูกหิน” สจ๊วร์ต บิงแฮม นักสนุกเกอร์มืออันดับ 10 ของโลกชาวอังกฤษ ประกาศความยิ่งใหญ่ด้วยการคว้าแชมป์โลกไปครอง

ด้วยการเร่งพลังคิวทิ่ม “พ่อมดน้อย” ฌอน เมอร์ฟี่ คู่แข่งเพื่อนร่วมชาติ มือ 8 และแชมป์โลก ปี 2005 ลงได้อย่างน่าประทับใจ 18-15 เฟรม คว้าแชมป์โลกครั้งแรกในชีวิตได้สำเร็จ

พร้อมกับทำเบรกสูงสุด 145 แต้ม เท่ากับ นีล โรเบิร์ตสัน อีกด้วย

คำให้สัมภาษณ์ของ บิงแฮม เมื่อปีกลาย ถือเป็นเรื่องที่ “น่าประทับใจยิ่ง” เพราะเขานั้นเป็นนักแทงประเภท “พรแสวง” แต่ปราบพวก “พรสวรรค์” อย่าง รอนนี่ โอซุลลิแวน และจัดด์ ทรัมป์ ลงได้อย่างสุดยอด

“ผมอยากจะบอกว่ามันยิ่งกว่าความฝัน นี่คือสิ่งที่มันมีความหมายต่อผมมาก ผมอยู่ในวงการมานานถึง 20 ปี ผมมีครอบครัว และเพื่อนๆ สนับสนุนผม มันเหลือเชื่ออย่างที่สุด ตอนที่ผมโดน ฌอน ไล่ตีเสมอมา 15-15 ผมคิดว่า ความฝันของผมมันอาจจะต้องยุติลงแล้ว แต่ผมกลับมาชนะได้ ในศึกนี้ผมผ่าน รอนนี่ โอซุลลิแวน กับ จัดด์ ทรัมป์ มาแล้ว แต่ชัยชนะในนัดชิงฯ มันคือที่สุดเหนือกว่าทุกสิ่งอย่างแท้จริง”

บิงแฮม บอกอีกว่า นี่คือผลของการที่ผมซ้อมอย่างหนักมาก และมีความมุ่งมั่นเชื่อมั่นในตัวเอง ผมมีความฝันตั้งแต่หัดเล่นตอนเด็กๆ และก็ซ้อมกันเรื่อยมา เด็กๆ ทุกคนต้องการที่จะเติบโตขึ้นและเล่นรายการนี้ ต้องการเป็นแชมป์โลก จากนี้ผมจะมุ่งมั่นมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม พร้อมกับเป็นคนเดิมที่ไปเล่นทุกทัวร์นาเมนท์ ซึ่งผมหวังว่านี่จะเป็นตัวอย่างที่ดีของการเป็นแชมป์โลก

ถือเป็นค่ำคืนสุดมหัศจรรย์อย่างยิ่ง และทำให้ บิงแฮม เป็นคนที่ 2 ต่อจาก “ไอ้หน้าบาก” เคน โดเฮอร์ตี้ ที่ได้ทั้งแชมป์สมัครเล่นโลก และแชมป์อาชีพโลกได้สำเร็จ

อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้น ฟอร์มของ บิงแฮม ถือว่าตกลงไปอย่างฮวบฮาบ จากสถิติการเล่นในปีนี้ ทั้งรายการแรงกิ้ง และรายการล่าน้ำจิ้ม

แรงกิ้งปีนี้ เริ่มจาก ออสเตรเลี่ยน โกลด์ฟิลด์ ปรากฏว่า เขาตกรอบแรกด้วยการแพ้ เฟร์กัล โอไบรอัน จอมหนืดจากไอร์แลนด์ 4-5

เซี่ยงไฮ้ มาสเตอร์ส แพ้รอบตัดเชือกให้กับ จัดด์ ทรัมป์ 3-6 เฟรม

อินเตอร์เนชั่นแนล แชมเปี้ยนชิพ ร่วงรอบแรกเมื่อแพ้ หยู เตลู 2-6 เฟรม

ยูเค แชมเปี้ยนชิพ ตกรอบ 32 คน เมื่อแพ้ ปีเตอร์ เอ๊บดอน 3-6

เยอรมัน มาสเตอร์ส แพ้ ไรอัน เดย์ ตกรอบ 16 คน 3-5

เวลช์ โอเพ่น ตกตั้งแต่รอบแรก แพ้ แอนโธนี่ย์ แฮมิลตัน 1-4

จะมีฟื้นขึ้นมาก็รายการล่าสุดอย่าง เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ ที่ทะลุเข้าชิงฯ แต่โดน ฌอน เมอร์ฟี่ ลบแค้น 9-10 เฟรม

ส่วนรายการล่าน้ำจิ้มอย่าง แชมเปี้ยน ออฟ แชมเปี้ยนส์ ก็ตกรอบแรกเช่นกันเมื่อแพ้ จ้าว หยู หลง 3-4 มาในศึกเดอะ มาสเตอร์ส ตกรอบตัดเชือก แพ้ รอนนี่ โอซุลลิแวน 3-6 อีกรายการคือแชมเปี้ยนส์ลีกก็ฟอร์มเละ ตกรอบแบ่งกลุ่มรอบแรก

แม้ว่าเวลานี้ บิงแฮม จะยึดอันดับ 2 ของโลกอย่างเหนียวแน่น แต่มันบอกไม่ได้เลยว่า เขาจะป้องกันแชมป์โลกเอาไว้ได้

ด้วยฟอร์มการเล่นที่ตกลงไป และมาตรฐานที่หายไปอย่างชัดเจน

ไม่แปลกที่จะบอกปีนี้ แชมป์โลกจะเปลี่ยนมือ แต่มันจะแปลกมากๆ หาก บิงแฮม ป้องกันแชมป์ได้

อย่าลืมว่า รอนนี่ โอซุลลิแวน จ้องจะมาสอยแชมป์โลกโดยเฉพาะ ขณะที่มือ 1 โลกอย่าง มาร์ค “เดอะ ชาร์ค” เซลบี้ ที่พักไป 2 รายการด้วยเหตุผลส่วนตัวนั้น ก็น่าจะเก็บความสดมาบดรายการนี้ ไม่ใช่ที่ฝีมืออย่างเดียว แต่ยังมีฤทธิ์มีเดชจาก “The curse of the Crucible” อีกต่างหาก

นั่นก็คือ ไม่เคยมีแชมป์โลกหน้าใหม่ป้องกันแชมป์ได้เลยสักรายเดียว

หนนี้ก็เช่นกัน ขนาดพระกาฬอย่าง สตีฟ เดวิส, สตีเฟ่น เฮนดรี้, รอนนี่ โอซุลลิแวน ยังไม่รอด

บิงแฮม ก็รอดยากเช่นกัน!

 

บี แหลมสิงห์

(ตีพิมพ์ในนิตยสารคิวทอง ฉบับที่ 401)