บทสัมภาษณ์ มาร์ติน กูลด์, รอนนี่ โอซุลลิแวน, จิมมี่ ไวท์ หลังจบการแข่งขันรายการ German Masters 2016

8 ก.พ. 59

 

หลังการแข่งขันรายการเยอรมัน มาสเตอร์ส 2016 จบลงไปแล้ว เรามาฟังบทสัมภาษณ์หลังเกมกันครับ

รอนนี่กล่าวว่า มันเหลือเชื่อมากและคิดว่า มาร์ติน เองก็ยังไม่ได้ซึมซับความรู้สึกของการเป็นแชมป์ซักเท่าไหร่ จนกว่าจะผ่านไปอีก 2 - 3 วัน มาร์ตินเขาเล่นสนุกเกอร์มานานแล้ว และบางครั้งก็แพ้อย่างไม่น่าแพ้ ครั้งนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่เขาจะได้แชมป์นี้ หลังจากนี้เสียงวิพากษ์วิจารณ์ในแง่ลบต่างๆ ก็น่าจะหายไปแล้ว ส่วนตัวรอนนี่เอง ก็อยากจะเจอกับ มาร์ติน กูลด์ ในการแข่งขันที่เชฟฟิลล์เช่นกัน และรอนนี่ยังกล่าวอีกว่า ตัวมาร์ตินเองก็รู้ว่าในทัวร์นาเมนท์นี้ แฟนๆ สนุกเกอร์ต่างพูดกันไปในทำนองเดียวกันว่า สุดท้ายแล้วมาร์ตินก็จะตกม้าตายเหมือนที่ผ่านมา และแน่นอนว่า การพูดคุยกันในทำนองนี้เป็นเรื่องที่ดังและพูดกันไปทั่ว ไม่ใช่การคุยกันแบบเงียบๆ แต่แล้วเขาก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เขาทำได้ สยบคำสบประมาทต่างๆ ได้สำเร็จ

มาร์ติน เป็นนักสนุกเกอร์ที่เล่นได้มีประสิทธิภาพมากคนหนึ่ง สไตล์การเล่นของเขาจะคล้ายกับ แบร์รี่ ฮอว์กินส์ หรือ แมทธิว สตีเว่นส์ ซึ่งฝีมือและศักยภาพของเขา มีเพียงพอที่จะคว้าแชมป์ในการแข่งขันที่เชฟฟิลด์ได้เช่นกัน

นีล โฟลด์ เสริมว่า เราไม่มีแชมป์ที่ใส่แว่นมานานแล้ว ซึ่งนักสนุกเกอร์ส่วนใหญ่จะไม่ใส่แว่นลงแข่งขันแล้ว พวกเขาเปลี่ยนมาใส่คอนแทคเลนส์ หรือ ทำเลสิกกันหมดแล้ว ยกเว้นก็แต่แชมป์คนนี้ของเรา คือ มาร์ติน กูลด์

จิมมี่ แสดงความเห็นว่า ในการแข่งขันรายการนี้ มีความยากและความกดดันตรงที่ ในขณะทำการแข่งขัน จะสามารถมองเห็นการแข่งขันของโต๊ะอื่นๆ ได้ และยังมีความกดดันจากผู้ชมที่เข้ามาชมที่สนามแข่งเป็นจำนวนมากอีกด้วย

มาร์ติน ได้แชมป์รายการใหญ่ ทำให้เขากลายเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวอีกคนหนึ่งในการแข่งขันรายการต่อๆ ไป

มาร์ติน กูลด์ เผยว่า ในที่สุดเขาก็สามารถสยบคำสบประมาททั้งหลายได้สำเร็จ ในขณะลงแข่งขันเขาก็ภาวนาทุกครั้งว่าอย่าให้แพ้เหมือนครั้งก่อนๆ หรือเป็นไปตามคำกล่าวของทุกๆ คน และยังกล่าวอีกว่า เขาได้รับข้อความต่างๆ มากมาย จากหลายช่องทาง ทั้ง Facebook หรือ SMS ซึ่งตัวเขาเองพยายามเอาตัวเองออกมาจากข้อความเหล่านี้ และอยู่ห่างจากโซเชียล เพื่อให้มีสมาธิ และไม่สนใจกับคำสบประมาทต่างๆ เพื่อตัวเองจะได้สามารถไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ เพราะเมื่อเดือนที่ผ่านมา เขาฝึกซ้อมอย่างหนัก และพร้อมที่จะคว้าแชมป์ในรายการนี้

สิ่งที่พยายามฝึกฝนมาตลอดคือ หลังจากที่เสียเฟรมแล้ว จะต้องไม่เสียกำลังใจ ลุกขึ้นมาสู้ต่อให้เร็วที่สุด เช่น ก่อนที่จะจบเซสชั่นแรก มาร์ติน นำอยู่ 4-2 และควรที่จะนำเป็น 5-2 แต่กลับมาเสียเฟรม ถูกไล่ตามขึ้นมาเป็น 4-3 ทำให้เขาต้องลุกขึ้นมาสู้ต่อ โดยไม่เสียกำลังใจกับการไล่ตามของคู่แข่ง เรื่องอย่างนี้ไม่สามารถสอนกันได้ แต่ต้องการเกิดจากประสบการณ์และการเรียนรู้เท่านั้น และนั่นเป็นโชคดีของมาร์ติน ที่เขาสามารถลุกขึ้นมาสู้ได้โดยไม่เสียกำลังใจ ในเวลาที่สำคัญเช่นนี้