เตี้ย เวียงฟ้า

24 พ.ค. 60

เป็นยุคสมัยที่โต๊ะสนุกเกอร์เวียงฟ้ารุ่งเรืองมาก นอกจากมีนักสนุกเกอร์ฝีมือดี ระดับเซียนแถวหน้าของเมืองไทยหลายคนประจำอยู่ แต่ที่นั่น ยังมีนักสนุกเกอร์ที่ชอบถือหางในการพนันขันต่อวงนอกแน่นขนัด เมื่อนักสนุกเกอร์ฝีมือดีปะทะกัน

หรือมีมือดีต่างถิ่นเดินสายมา

นักสนุกเกอร์จะรายล้อมรอบทุก ๆ มุมโต๊ะ ผู้เล่นจะเข้าไปก้มสาวคิวแต่ละที ต้องแหวกทางเข้าไป เสียงต่อรองราคาอึกทึกข้ามหัวข้ามหูข้ามฝั่ง นักสนุกเกอร์ผู้จับคิวเล่นจะต้องมีสมาธิที่ดี และมีหัวใจที่มั่นคง มิเช่นนั้น ถูกส่งเสียงจากวงนอกแกล้งบีบหัวใจ ทำให้ลุกลน ประหม่า ปอดลอย มือไม้สั่น หัวใจเต้นระทึก มีผลให้การปล่อยคิวผิดพลาด น้ำหนักและเหลี่ยมคูก็ย่อมไม่ไปแบบตั้งใจ

เซียนเดินสายมาจากต่างถิ่น ถูกมือต่ำชั้นกว่าของที่นี่ คว่ำม่อยกระรอกไปเยอะแล้ว

โต๊ะเวียงฟ้าอยู่ในย่านชุมชนใจกลางย่านการค้าของกรุงเทพมหานคร ในยุค พ.ศ. ๒๕๐๕ โต๊ะสนุกเกอร์ “เวียงฟ้า” แห่งนี้จึงคึกคักไปด้วยผู้คนทุกวัน ทั้งคนเล่นและคนดูที่มารอได้เสียในการจับเล่นเดิมพันนอก เลือกเล็งเอาข้างที่ตนเองคิดว่าจะเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะในแต่ละเกม ทั้งนี้ จะมีทั้งกุมารจีน กุมารซิกซ์ ที่มีกำลังเงิน ซึ่งร้านค้าหรือที่ทำงานก็อยู่ในละแวกใกล้นั้น เยาวราช พาหุรัด สะพานหัน สำเพ็ง

จึงสะดวกที่เวลาว่างงาน หรืองานเสร็จก็แวบขึ้นไปจะชั่วประเดี๋ยวประด๋าว หรือยาวไปเลย นักสนุกเกอร์จึงหนาแน่นตลอดวัน หมุนเวียนเปลี่ยนหน้ากันขึ้นไป

โต๊ะเวียงฟ้า อยู่ในย่านวังบูรพา ตอนนั้นแถวนี้มีโรงภาพยนตร์ชั้นหนึ่งถึงสามโรง คิงส์ แกรนด์ และควีนส์ มีห้างใหญ่ ๆ สามสี่ห้าง อาทิ ห้างเซ็นทรัล ห้างไนติ้งเกล ห้างใต้ฟ้า

สมัยนั้นศูนย์การค้าใช้คำว่า “ห้าง” นำหน้า

โต๊ะเวียงฟ้า อยู่ด้านหลังโรงภาพยนตร์คิงส์และแกรนด์ ซึ่งด้านหลังสองโรงภาพยนตร์นี้เป็นโรงภาพยนตร์ควีนส์ ข้าง ๆ เป็นห้างใต้ฟ้า ทางขึ้นโต๊ะเวียงฟ้าอยู่ข้างตึกนี้ และโต๊ะสนุกเกอร์ตั้งอยู่ชั้นสองและชั้นสาม

นักสนุกเกอร์หัดเล่น หรือฝีมือยังไม่ดี จะเล่นกันอยู่ชั้นสามก่อน พอเก่งหรือพอจะคุ้นเคย ถึงจะลงมาเล่นชั้นสอง เพราะชั้นสองจะเป็นพวกเซียนฝีมือดี และนักสนุกเกอร์ขาเดิมพัน หรือพวกขาใหญ่ จะเล่นประจำอยู่ชั้นนี้

ที่นี่จึงมักมีสนุกเกอร์ชั้นเซียนจากหลายแห่งมาเล่นประจำ อาทิ มาจากแถวเยาวราช แถวเฉลิมกรุง แถวปากคลองตลาด หมุนเวียนขึ้นมา จนหลายคนปักหลักกลายเป็นเซียนประจำโต๊ะไป ก็มี

เซียนเตี้ย เป็นนักสนุกเกอร์ฝีมือดีคนหนึ่ง อยู่ในระดับแถวหน้าของเซียนที่นั่น ก็เป็นมือรับแขกแปลกหน้า หรือนักสนุกเกอร์สมัครเล่นที่หลงเข้ามา เซียนเตี้ย มีรูปร่างลักษณะแบบที่ใครไม่รู้จัก ก็ไม่คิดว่าจะเล่นสนุกเกอร์เก่ง เขาตัวเตี้ยสมชื่อ จึงหาคู่เล่นได้ไม่ยาก

รับแขกบ่อย ๆ จนมีชื่อเสียงขจรขจายว่า “เตี้ย เวียงฟ้า”

เซียนเตี้ย นี่มีลูกเล่นเยอะ แต่ไม่ใช่ลูกไม้ หากลูกเล่นของเขาก็คือ เทคนิค กรรมวิธีที่จะมีคู่ต่อสู้ให้ได้เล่นด้วยทุกวัน เพราะ บนโต๊ะใต้ฟ้า ใคร ๆ ก็รู้ฝีมือเซียนเตี้ยดี หากไม่มีการต่อให้คู่ต่อสู้ ก็ไม่มีใครกล้าปะฝีมือด้วย

ส่วนมือระดับเดียวกันก็เล่นกันจนไม่อยากจะเจอกัน เพราะวัดดวง ผลัดกันแพ้ชนะ อาทิ เซียนเซี๊ยะ หกชั้น สองเซียนคู่นี้ คู่คี่กันทั้งฝีมือและส่วนสูง

เซียนเตี้ยจึงต้องต่อให้คนอื่น บางทีต่อแค่แต้มก็ไม่มีใครอยากสู้ เลยต้องหาวิธีการต่อที่หลากหลายมิติ ซึ่งจะทำให้ผู้ถูกท้าอยากรู้อยากลอง สงสัย ข้องอยู่ในใจว่า จะเอาชนะได้ไหม

จากไม่อยากเล่นด้วย ก็กลายมาเป็นอยากลอง

มิติหรือรูปแบบการต่อให้ของเขาคือ ใช้มือซ้ายเล่นตลอดเกมบ้าง ใช้แทงมือเดียวตลอดเกมบ้าง ใช้ไม้คิวเรสต์ยาวแทงแทนคิวธรรมดาบ้าง ซอยคิวแทงไขว้หลังบ้าง ไม่มีเบรกแทงทีเดียวหยุดบ้าง หรือไม่มีการวางสนุ้กบ้าง

ผลว่าใครจะแพ้ชนะ ก็อยู่ที่คนต่อจะเอาจริงแค่ไหน

เขามีสูตรการพนันว่า อย่าไปเล่นการพนันประเภทที่มีเจ้ามือ เพราะเจ้ามือจะเป็นผู้กำหนดกฎกติกา ฉะนั้น เขาจะต้องเลือกเอาวิธีที่เขาได้เปรียบอย่างแน่นอน

หรือ อย่าไปเล่นกับคนที่ท้าพนันอะไรกับเราว่าจะแทงอย่างนั้นอย่างนี้ได้ไหม หากคุณหลวมตัวรับคำท้า ก็มีโอกาสแพ้พนันชัวร์

เพราะ ที่เขาท้ามานั้น แสดงว่าเขาต้องทำได้

ช่วงหนึ่ง “เตี้ย เวียงฟ้า” ต้องเป็นเซียนเดินสายโดยบังเอิญเกือบสองปี และเป็นการเดินสายต่างจังหวัด “เตี้ย เวียงฟ้า” ถึงอายุเกณฑ์เป็นทหารบก ไปรับการฝึกที่ศูนย์การทหารราบ ค่ายธนะรัชต์ ปราณบุรี ฝึกหนักได้สี่ห้าเดือน ครูฝึกก็ไปรู้มาว่า “เตี้ย เวียงฟ้า” มีฝีมือทางสนุกเกอร์ระดับเซียน ที่สามารถพาเดินสายประกบหาคู่ล้มเดิมพันกับเซียนในย่านแถวนั้นได้สบาย ๆ

ดังที่ว่า “เตี้ย เวียงฟ้า” มีบุคลิกที่ไม่เข้าสเป็คเซียนสนุกเกอร์ทั่ว ๆ ไป แถมไม่มีใครเคยเห็นหน้าและรู้จักมาก่อน การเดินสายเข้าโต๊ะสนุกเกอร์ที่ไหน ก็หาคู่เล่นได้ง่าย

ปากน้ำปราณ สี่แยกปราณบุรี หัวหิน ชะอำ ท่ายาง เพชรบุรี

ครูฝึกพา “เตี้ย เวียงฟ้า” กวาดเงินกลับออกมาทุกแห่ง สะดวกโยธิน ไม่มีนักเลงประจำโต๊ะคอยแซว หรือแพ้เดิมพันแล้วเบี้ยว หรือตีลูกรวน เพราะ ใหม่ ๆ เขามาในเครื่องแบบครึ่งท่อนทุกครั้ง เพื่อเป็นหลักประกันได้สองอย่างว่า คงไม่มีนักเลงกล้าหาเรื่อง และคงไม่ใช่นักสนุกเกอร์ชั้นเซียน กวาดเงินออกมาหลายแห่งจนชักลือกันโด่งดังในวงการสนุกเกอร์แถบนั้น

เขาก็ปรับเปลี่ยนการแต่งกายเสียใหม่ และเข้าโต๊ะสนุกเกอร์แห่งใหม่ ก็แสร้งทำเหมือนมาคนเดียว มีธุระอื่นเข้ามาแวะพัก ไม่นานก็มีเจ้าถิ่นมาชวนเล่น

พอหาคู่ประกบได้ ก็แพ้ชนะกันไปแกน ๆ จนเดิมพันสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ พวกนายทุนหรือครูฝึกจึงค่อย ๆ ทยอยเข้าโต๊ะ แสดงตัวเป็นนายทุน มาถือหาง และจับเดิมพันนอก

นี่เป็น ส่วนเสี้ยวหนึ่งของ “เตี้ย เวียงฟ้า” เซียนสนุกเกอร์ชั้นดีคนหนึ่งในอดีต ที่มีลักษณะและลีลาอีกรูปแบบหนึ่งของพญาเซียนในการเดินสาย

 

 

วันชัย   เทียมทัด

(ตีพิมพ์ในนิตยสารคิวทอง ฉบับที่ 414)