หลายเรื่องที่คุณไม่รู้เกี่ยวกับ “เดอะ ร็อกเก็ต” รอนนี่ โอซุลลิแวน

ถ้าพูดถึงรอนนี่ โอซุลลิแวนแล้ว คงไม่มีใครที่เล่นสนุกเกอร์หรือเป็นแฟน ๆ สนุกเกอร์แล้วไม่รู้จักเขาคนนี้ นี่คือเรื่องราวของนัมเบอร์วันของนักสนุกเกอร์ที่มีสีสันและผู้ติดตามคลั่งไคล้มากที่สุดในโลก ซึ่งคุณอาจจะไม่เคยทราบมาก่อนเกี่ยวกับตัวเขาเอง

เดอะร็อกเก็ต ชอบอ่านหนังสือ The Aviator Man ของ โฮเวิร์ด ฮิวจ์

สิ่งแรกที่เค้าคิดเมื่อคว้าแชมป์แรกให้กับตัวเองคือ สนุกเกอร์จะกลายเป็นชีวิตของเค้า เพราะตอนที่ได้แชมป์ครั้งแรกเค้าเพิ่งอายุจะ 14 ปีเท่านั้น และคิดว่าจะต้องทำแบบนั้นไปเรื่อย ๆ เมื่อเข้าเบรกต่อเนื่องได้ในรายการ UK Championship ในตอนที่อายุแค่ 17 ปี

รอนนี่ชอบเพลงของ The Stones  และชื่นชอบสีแดง

เอียน บราวน์ คือนักร้องที่เค้าชื่นชอบ

ตอนที่รอนนี่เรียนอยู่ในโรงเรียนนั้น เค้าชอบที่จะเล่นฟุตบอลมากกว่าอย่างอื่น แม้ว่าความคิดของเขาในตอนนั้นคืออยากจะเป็นนักสนุกเกอร์อาชีพ ทำให้เป็นไปได้ยากที่จะคร่ำเคร่งในวิชาเรียนและทำแบบฝึกหัด แต่ที่เค้าชอบแว่บไปเล่นฟุตบอลนั้น เป็นเพราะที่โรงเรียนมีสนามฟุตบอลและเพื่อน ๆ รุ่นราวคราวเดียวกับเค้าชอบเล่นฟุตบอลเหมือนกับเด็ก ๆ ในอังกฤษทุกคนเป็นกัน

เดอะร็อกเก็ต ไม่สนใจว่าจะมีใครมาทำลายสถิติแม็กซิมั่มเบรกที่เร็วที่สุดในโลกของเขาที่ 5 นาทีกับ 20 วินาที เพราะว่าตอนที่เค้าทำไว้นั้นตำแหน่งลูกมันเพอร์เฟค และถ้าในวันนึงมีคนได้ตำแหน่งลูกยืนแบบนั้นเหมือนกัน ก็น่าจะมีคนทำได้ มันอาจจะยากที่จะทำแบบนั้นอีกแต่ก็ไม่ใช่ที่จะเป็นไปไม่ได้ เค้าอาจจะทำลายมันลงเองก็ได้นะ ใครจะไปรู้ล่ะ รอนนี่กล่าวไว้

ถ้าพรุ่งนี้เป็นเกมสุดท้ายที่เค้าจะเล่นสนุกเกอร์ รอนนี่อยากจะเล่นกับ สตีเฟ่น เฮนดรี้

ถ้าให้เลือกว่า เล่นได้ดี กับชนะในเกม อินดี้ตัวพ่อขอเลือกทั้งคู่ สาเหตุเพราะว่า บางครั้งเค้ารู้ดีว่าเค้าสามารถแทงได้ดีกว่านี้แต่ทำไม่ได้ และเค้ารักที่จะชนะในเกมนี้ สิ่งที่ดีที่สุดในเกมการแข่งขันของเขาคือเล่นได้ดีและเป็นผู้ชนะ

รอนนี่ไม่เคยคิดว่าจะไปเข้าร่วมรายการเรียลลิตี้โชว์แต่อย่างใด เพราะเค้าชอบที่จะเป็นผู้ชมมากกว่า

ครั้งแรกที่เค้าสามารถทำเบรกได้ 50 แต้มคือเมื่อตอนอายุ 7 ขวบ และแทงเซ็นจูรี่เบรกได้ครั้งแรกตอนอายุเพิ่ง 10 ขวบ

เกมในรอบชิงชนะเลิศรายการ ยูโรเปี้ยน โอเพ่น เมื่อปี 2003 ที่ทุบชนะ สตีเฟ่น เฮนดรี้ คือเกมที่เค้าคิดว่าเป็นเกมที่เค้าภูมิใจ เพราะตัวเขาเองโชว์ความสามารถได้เจ๋งที่สุด

ในการเอาชนะความกดดันในแต่ละเกมการแข่งขันนั้น รอนนี่ไม่ได้มีแทคติกอะไรพิเศษแต่อย่างใด เค้าแค่พยายามจดจ่ออยู่กับเกม และบล็อกทุกสิ่งทุกอย่างที่ไม่เกี่ยวข้องออกจากหัวในตอนแข่ง และเค้าคิดว่าสามารถรีแล็กซ์ตัวเองได้ในเกมมากกว่าคนอื่น ๆ รวมถึงอยู่ในความสงบและลดความตื่นเต้นต่าง ๆ ในระหว่างนั้นได้ดี

รอนนี่ยังไม่คิดจะเปลี่ยนทรงผมและไว้หนวดเคราในตอนนี้ เพราะเค้าเคยลองทำดูมาหมดแล้วไม่ว่าจะเป็นสกินเฮดและไว้ผมยาวแบบถึงกับต้องใช้ที่คาดผมลงเล่น

ในตอนที่เค้านั่งที่เก้าอี้เพื่อรอโอกาสกลับมาแทงในการแข่งขันนั้น บางทีเค้าก็คิดแบบที่คนอื่นคิดเหมือนกันว่าจะเอาตัวรอดจากเฟรมนั้นได้ยังไง ตำแหน่งลูกขาวตอนนั้นถ้าเป็นเขาจะวางอีตัวแบบไหน ถ้าเป็นเขาไปแทงเองจะเล่นต่อยังไงถ้าได้โอกาสแทงแล้ว บางครั้งเค้าก็จะพยายามลบเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับเกมออกจากสมองไปบ้างเหมือนกัน

สิ่งที่ดีที่สุดของรอนนี่จากการที่ได้เป็นนักสนุกเกอร์อาชีพคือ เค้าสามารถหารายได้เลี้ยงดูตัวเองได้จากกีฬาชนิดนี้ ซึ่งมีผู้คนไม่มากนักที่สามารถหาเงินได้มากขนาดนี้ เค้าโชคดีเอามาก ๆ และยังสามารถสร้างสีสันให้ในรายการแข่งขันรายการต่าง ๆ อีกด้วย

ถ้าไม่ได้เป็นนักสนุกเกอร์อาชีพ เค้าอยากจะเป็นนักฟุตบอลอาชีพซึ่งเป็นกีฬาอีกประเภทหนึ่งที่เค้าชื่นชอบและเล่นได้ดี เค้าลงเล่นในรายการที่เป็นรายการการกุศลอยู่บ่อย ๆ หรืออาจจะเป็นนักกอล์ฟก็ได้นะ

สิ่งที่ทำให้เค้าอารมณ์ไม่ดีคือวันที่ทีมฟุตบอลอาร์เซนอลในพรีเมียร์ลีกของอังกฤษลงแข่งแล้วแพ้

ในตอนที่เค้ายังเป็นเด็กถ้าให้เลือกสถานที่ที่เค้าจะไปคือ แมคโดนัลด์ เบอร์เกอร์คิง เคเอฟซี และโต๊ะสนุกเกอร์

หนังสือที่เค้าอ่านเป็นประจำคือหนังสือของผู้ก่อตั้งแอปเปิ้ลอย่าง สตีฟ จ็อบส์

สิ่งที่รอนนี่กลัวที่สุดคือ การเดินออกจากครูซิเบิ้ลเธียเตอร์ในรอบชิงชนะเลิศการแข่งขันรายการชิงแชมป์โลกในฐานะผู้พ่ายแพ้

ถ้าเดินไปในซุปเปอร์มาร์เก็ต สิ่งแรกที่เค้าจะเลือกซื้อมากินคือ แอปเปิ้ล กล้วยแล้วก็ถั่ว

สถานที่ที่รู้สึกเยี่ยมซึ่งรอนนี่เคยไปมาแล้วคือประเทศอินเดีย ซึ่งเขาได้สัมผัสประสบการณ์ที่ดี และตอนนั้นเค้าเพิ่งเป็นเด็กอายุ 15 ปี

สำหรับรอนนี่ คนที่เป็นไอดอลและแรงบันดาลใจในการเล่นสนุกเกอร์คือ สตีเฟ่น เฮนดรี้ และสตีฟ เดวิส ไม่มีคนอื่นนอกจากสองคนนี้อีกแล้ว เป็นฮีโร่ที่ยิ่งใหญ่สำหรับเขามาตลอดตั้งแต่เด็ก

Shawshank Redemption คือภาพยนตร์ที่เค้าชื่นชอบ

ถ้ารอนนี่ได้เป็นฮีโร่ที่สามารถเปลี่ยนแปลงบางสิ่งได้ สิ่งที่เขาอยากจะได้รับคือ พลังที่จะสามารถเปลี่ยนสิ่งที่ไม่ดีให้เป็นสิ่งที่ดี

รีสตาร์ท

(ตีพิมพ์ในนิตยสารคิวทอง ฉบับที่ 417)